ตำรวจจ่อตรวจเลือด "เด่นภูมิ" ซ้ำในอีกรอบเพื่อหาทั้งเอชไอวีและกามโรค เพราะพฤติกรรมก่อเหตุไม่สวมถุงยางอนามัย และโรคมีระยะฟักตัวที่ยาวนาน เกรงอาจสร้างความเดือดร้อนให้ชีวิตเหยื่อในระยะยาว

จากกรณีเหล่าบรรดาสาวพริตตี้และเด็กเอนฯ เข้าแจ้งความให้ตำรวจ สน.บางขุนเทียน สน.บวรมงคล และ สน.ประชาชื่น ติดตามจับกุมนายเด่นภูมิ วัฒนโชติภิญโญ อายุ 39 ปี ชาว จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาและศาลอาญาธนบุรี รวม 3 หมายจับ ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดๆ หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตและร่างกายเสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ โดยพฤติกรรมของนายเด่นภูมิ จะแอบอ้างตัวเป็นโมเดลลิ่งในไลน์ ล่อลวงกลุ่มสาวพริตตี้และเด็กเอนฯ ให้ไปรับงานเอนเตอร์เทนชงเหล้าถึงห้องพัก ก่อนใช้มีดจี้บังคับเสพยาไอซ์และข่มขืนกระทำชำเราโดยไม่สวมถุงยางอนามัยในหลายท้องที่ มีสาวพริตตี้ตกเป็นเหยื่อหลายราย จนกระทั่ง จนท.ชุดสืบสวน กองปราบปราม จับกุมตัวได้ในคอนโดฯ ย่านสายไหม เมื่อวันที่ 11 พ.ค.64 ที่ผ่านมา

ต่อมาเมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 พ.ค.64 น.ส.ผิง (นามสมมติ) อายุ 27 ปี สาวพริตตี้หนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกนายเด่นภูมิ ล่อลวงบังคับขืนใจ เปิดเผยว่า หลังตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้และตนก็ชี้ตัวยืนยันไปแล้ว ตนก็มีความรู้สึกสบายใจ วางใจในเรื่องความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง แต่ที่ยังกังวล คือ ผลตรวจร่างกายและผลตรวจโรคจากแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช แม้ในเบื้องต้นทราบว่าเป็นผลลบทั้งเอชไอวี และกามโรคอื่นๆ ทว่าสำหรับเชื้อเอชไอวีนั้นแพทย์ได้นัดหมายให้ไปตรวจอีกครั้ง ใน 3 เดือนถัดไป เนื่องจากระยะเวลาฟักตัวของเชื้อค่อนข้างใช้เวลานาน และใช้เวลาไม่เท่ากันในแต่ละราย ดังนั้นผลตรวจของผู้เสียหายทุกคนตอนนี้ ก็จะออกมาเหมือนๆ กัน ติดตรงที่ผลเอชไอวีนั้นยังไม่มีใครสามารถวางใจได้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดำเนินการตรวจกามโรคและเอชไอวี ผู้ต้องหารายนี้ก่อนส่งตัวไปฝากขังที่ศาลด้วย เนื่องจากตนเชื่อว่านอกจากตนแล้ว ยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายกังวลอยู่เหมือนกัน

...

ด้าน พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.9 กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ เนื่องจากทราบดีว่า เชื้อเอชไอวีอาจสร้างปัญหาระยะยาวให้กับผู้เสียหาย โดยในวันที่ 13 พ.ค.นี้ เวลา 10.30 น. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ได้นัดประชุมชุดคลี่คลายคดี 3 โรงพัก ประกอบด้วย สน.บางขุนเทียน สน.ประชาชื่น และ สน.บวรมงคล เพื่อติดตามความคืบหน้าการทำงาน และกำหนดแนวทางในการดำเนินคดี และจะนำเรื่องนี้เสนอในที่ประชุมด้วยว่า นอกเหนือจากการตรวจดีเอ็นเอ และการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตนเห็นสมควรจะต้องตรวจกามโรคและเอชไอวีผู้ต้องหารายนี้ด้วยเนื่องจากพฤติกรรมการก่อเหตุกับเหยื่อแต่ละราย ต่างให้การว่าไม่ได้มีการสวมถุงยางอนามัย ที่สำคัญระยะเวลาฟักตัวของเชื้อเอชไอวีนั้นต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะตรวจพบ และแต่ละรายต่างก็มีระยะเวลาไม่เท่ากัน.