บิ๊กใหม่ เผยศาลสุราษฎร์ธานีออกหมายจับ 7 ผู้ต้องหาพัวพันคดีอุ้มฆ่าเสี่ยรับซื้ออาหารทะเล ชนวนเหตุแย่งทรัพยากรทางทะเล-การเมืองท้องถิ่น ขณะที่ "สุรัตน์ เศวตศิลป์" หน.แก๊งเคยโดนคดีฆ่ามาแล้วถึง 4 คดี
จากกรณี น.ส.จินดาหรา วสินทรัพย์ อายุ 31 ปี ภรรยาของ นายโกศล เรืองดุก อายุ 45 ปี แจ้งความกับตำรวจ สภ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ว่า สามีถูกทำร้ายร่างกายที่บริเวณศาลา ข้างบ้านเลขที่ 89 หมู่ 5 ต.ตะกรบ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด .45 จำนวน 1 ปลอก และพบรอยเลือดจากในบ้านเกิดเหตุไปตามถนน หมู่บ้านและบริเวณถนนหน้าวัดตะกรบจำนวนมาก โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. คืนวันที่ 2 พ.ค. 2564 ต่อมาพล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามคดีจนสามารถคลี่คลายคดี จนทราบว่านายโกศลถูกฆ่าตายแล้วอำพรางศพโยนทิ้งทะเล

เมื่อเวลา 9.30 น. วันที่ 12 พ.ค. ที่กองสืบสวนภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. แถลงข่าวความคืบหน้าฆ่า นายโกศล เรืองดุก เสี่ยอาหารทะเล พร้อมกับกล่าวว่าคดีนี้เป็นคดีที่กระทำการโดยทารุณโหดร้าย และมีเครือข่ายการทำงานจำนวนหลายคน รวมถึงสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีความเกี่ยวพันอีกหลายเรื่องในหลายพื้นที่ หลายจังหวัด ในส่วนความคืบหน้าขณะนี้ สามารถออกหมายจับ ผู้ต้องหา ได้ 7 ราย ประกอบด้วย
1. นายสุรัตน์ เศวตศิลป์ อายุ 43 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 2 ต.ตะกรบ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
2. นายคำธร หรือแน็ค เศวตศิลป์ อายุ 32 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 4 ต.คันธุลี อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี
3. นายสุรชัย หรือ ตาชัย คงสุข อายุ 39 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 4 ต.คันธุลี อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี
4. นายเกรียงไกร หรือเป็ด, เพชร แสงสง่า อายุ 34 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 4 ต.คันธุลี อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี
5. นายเจริญ หรือพร คะเชนทอง อายุ 56 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 2 ต.ตะกรบ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
6. นายจิรายุทธ หรือ โจ้ เศวตศิลป์ อายุ 24 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 1 ต.พุมเรียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
7. นายทิวากร หรือ บี เลื่องสุนทร อายุ 33 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 2 ต.ตะกรบ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ทั้งหมดทั้ง 7 คนในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยไม่มีเหตุอันควรและจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยมีหรือใช้อาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นการจับกุมและร่วมกันลอบฝังซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย ตามประมวลกฎหมายมาตรา 199 284 (4) 334 335 (7) 336 ทวิ 371 83 และพระราชบัญญัติอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนมาตรา 7,8,72 72 ทวิ
...

พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีไปได้ 3 ราย โดย 1 ในนี้มีนายสุรัตน์ เศวตศิลป์ หัวหน้าแก๊ง โดยก่อนนี้ พ.ต.อ.อรุณพงษ์ ภารพบ ผกก.สภ.ไชยา ได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีนายคำนึง ดีมีศรี อายุ 67 ปี เจ้าของบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 5 ต.ตะกรบ อ.ไชยา เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุในข้อหาช่วยไม่ให้ผู้อื่นได้รับโทษหรือทำให้รับโทษน้อยลงทำให้เสียหายทำลายซ่อนเร้นหรือเอาไปซึ่งพยานหลักฐาน ที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ข้อหา แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จในเอกสารของทางราชการซึ่งมีวัตถุประสงค์ใช้เป็นพยานหลักฐานในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น และข้อหา ขัด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยจัดให้มีการดื่มสุราและมีผู้ร่วมเกินกว่า 2 คนตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค

พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวอีกว่า แรงจูงใจในการก่อเหตุทราบว่า กลุ่มของนายสุรัตน์มีความขัดแย้งกับกลุ่มเครือญาติของนายโสภณมาก่อนหน้านี้ แต่การเกิดเหตุครั้งล่าสุดเกิดจากความขัดแย้งในการแย่งผลประโยชน์ทางทรัพยากรทะเล และเรื่องการเมืองท้องถิ่น โดยได้มีการแต่งตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษเฝ้าติดตามเพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ และขอความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ หรือผู้ที่ถูกกระทำจากกลุ่มของนายสุรัตน์ให้แจ้งเบาะแส ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือบุคคลที่ท่านไว้วางใจทราบ เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าดำเนินการกวาดล้างขั้นเด็ดขาดต่อไป ซึ่งประวัตินายสุรัตน์ ผู้สั่งการคดีนี้เคยก่อคดีฆ่ามาแล้วถึง 4 คดี ส่วนคนอื่นๆ ที่ถูกออกหมายจับล้วนแต่มีคดีฆ่ามาแล้วทั้งสิ้น จึงมองว่าพฤติการณ์ของกลุ่มคนเหล่านี้เป็นภัยต่อคนในพื้นที่เป็นอย่างมาก

ส่วนการค้นหาศพนายโกศล ยังดำเนินการอย่างต่อเนื่องร่วมกับญาตินายโกศล ล่าสุดได้วางแผนออกไปค้นหาอีกบริเวณอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง โดยใช้นักประดาน้ำ ประกอบกับเครื่องมือจับสัตว์น้ำ ซึ่งมีความหวังว่าจะพบร่างนายโกศลพร้อมกับหลักฐานอื่นๆ แต่ถึงอย่างไรก็ตามแม้ว่าจะยังไม่สามารถพบร่างนายโกศลแต่ในทางสำนวนการสอบสวนและการรวบรวมพยานหลักฐาน พนักงานสอบสวนเชื่อมั่นว่าจะสามารถเอาผิดผู้ร่วมขบวนการได้ทุกคน โดยขณะนี้สำนวนการสอบสวนปากคำพยานคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 80 รอเพียงหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์เท่านั้น.
...