อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ชี้ กรณีการชุมนุมบริเวณบันไดศาลอาญา กำลังตรวจสอบอยู่หากพบละเมิดอำนาจศาล ก็จะดำเนินการเอง ชี้มาเป็นม็อบตะโกนด่าถือว่าข่มขู่ศาล-ผู้พิพากษา เป็นการก้าวร้าวไม่เคารพกฎหมาย
เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2564 นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวถึงเหตุการณ์การชุมนุมบริเวณบันไดศาลอาญาเพื่อเรียกร้องกดดันให้ปล่อยเเกนนำคณะราษฎร เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมาว่า ทางศาลอาญากำลังตรวจสอบข้อมูลจากกล้องวงจรปิดและรายละเอียดทั้งหมดอยู่ ให้ละเอียดชัดเจน ถ้าหากมีการกระทำที่มีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ทางศาลอาญาก็จะดำเนินการเอง ในส่วนข้อหาอื่น ที่เป็นในภาพรวมเช่น ความผิดฐานดูหมิ่นศาล หรือความผิดลักษณะนี้ ก็จะขอให้สำนักงานศาลยุติธรรมดูข้อมูลจากคลิปเพื่อดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อไป
อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวต่อว่า ส่วนความผิดพวก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือ พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ การดำเนินการต้องเเยกกัน ส่วนเรื่องการตรวจสอบจะใช้ระยะเวลานานหรือไม่นั้น ขณะนี้ทางผู้อำนวยการศาลอาญากำลังตรวจสอบดูอยู่ คาดว่าเร็วๆ นี้จะมีการดำเนินการ เราอยากดำเนินการให้เร็ว เเต่ติดปัญหาเรื่องการพิจารณาคดีเพราะติดโควิด-19 เเต่ถ้ามีจำเลยที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดอำนาจศาล ติดประกันอยู่ในคดีอื่นแล้วเราสามารถเรียกตัวมาได้ง่าย ก็จะดำเนินการเร็วขึ้น
...
"พฤติการณ์ที่มากันเป็นม็อบและมาตะโกนด่า และเเสดงออกตามที่เห็นในคลิป มันเป็นการข่มขู่ศาล ข่มขู่ผู้พิพากษา และไม่คำนึงถึงหลักกฎหมายที่ควรจะเป็น ไม่มีประเทศไหนในโลกที่มีการเข้ามาขู่ศาลถึงหน้าศาลแบบศาลอาญาประเทศไทย ถ้าเป็นประเทศอื่นเขาจับกันไปหมดแล้ว ขนาดเราปล่อยให้เขาใช้สิทธิเสรีภาพ ได้อย่างเต็มที่ในยุคนี้ ก็ยังถูกกล่าวหาว่าทำศาลให้เป็นเรือนจำ ซึ่งเป็นคำพูดของกลุ่มทนายมาหลายครั้งหลายครา ที่มันไม่ตรงกับข้อเท็จจริง สังเกตจากเมื่อวานเราก็ไม่ได้คัดกรองอะไรเข้มจนเกินปกติ เเต่กลุ่มนี้กลับมาใช้ปฏิกิริยากดดันศาลด่าทอหยาบคาย อันนี้ไม่ใช่การใช้สิทธิแต่เป็นการก้าวร้าวไม่เคารพกฎหมายมากกว่า" นายสิทธิโชติ กล่าว.