รูปแบบด่านตรวจใหม่ทั่วประเทศ สายเมามีสะดุ้ง วันแรกโดนจับแล้ว 28 ราย
2 เม.ย. 2564 16:48 น.
- หลังจากที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ เริ่มการตั้งด่านกวดขันวินัยจราจร การตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 เป็นต้นไป
ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้นโยบายตำรวจทั่วประเทศรับทราบมาตรการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ให้มีการตั้งด่านได้ แต่ต้องมีความพร้อมตามมาตรฐานที่กำหนด เพื่อเป็นไปตามหลักกฎหมาย เป็นมาตรฐานสากล มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และไม่กระทบสิทธิกับประชาชนเกินสมควร สร้างความเชื่อมั่น และเกิดภาพลักษณ์ที่ดีในการบังคับใช้กฎหมาย จึงกำหนดมาตรการปฏิบัติเกี่ยวกับการตั้งจุดตรวจ โดยมี "บิ๊กเด่น" พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ เป็นหัวเรือใหญ่ในการกำหนดรูปแบบ มีการประชุมร่วมหน่วยงานเกี่ยวข้องกว่า 1 เดือน
ในที่สุดด่านตรวจรูปแบบใหม่ก็กลับมา
การตั้งจุดตรวจแต่ละประเภท ต้องจัดทำแผนการตั้งจุดตรวจที่ชัดเจน ให้ปรากฏรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ตั้งจุดตรวจ ช่วงเวลาปฏิบัติ กำลังพล หัวหน้าจุดตรวจ และผู้ควบคุมการปฏิบัติ โดยการออกแผนการตั้งจุดตรวจทุก 7 วัน 15 วัน หรือ 1 เดือน
สถานที่ตั้งจุดตรวจทุกประเภท ควรพิจารณาจากบริเวณที่มีปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ หรือมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง หรือเป็นบริเวณที่มีการฝ่าฝืนกฎหมายของผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นจำนวนมาก ต้องคำนึงถึงสภาพการจราจร วัตถุประสงค์ของจุดตรวจ และความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นสำคัญ
จุดตรวจ ต้องมีแผงกั้นที่มีเครื่องหมายจราจรประเภทป้าย “หยุดตรวจ” โดยให้เป็นไปตามมาตรฐานที่จุดตรวจจะต้องมีในการติดตั้งป้ายและเครื่องหมายจราจร สำหรับในเวลากลางคืนจะต้องมีแสงไฟส่องสว่างให้มองเห็นป้าย “หยุดตรวจ” ได้อย่างชัดเจนในระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตร และให้มีแผ่นป้ายแสดง ยศ ชื่อ สกุล และตำแหน่งของหัวหน้าจุดตรวจดังกล่าว

โดยต้องมีนายตำรวจระดับสัญญาบัตร ยศตั้งแต่ร้อยตำรวจตรีขึ้นไป เป็นหัวหน้าจุดตรวจ และตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ต้องแต่งเครื่องแบบทุกนาย ผู้ปฏิบัติหน้าที่ต้องใช้กิริยาวาจาที่สุภาพ มีการกล่าวคำทักทายและคำขอบคุณ หากจำเป็นให้อธิบายอำนาจหน้าที่ วิธีการและขั้นตอนตามหลักกฎหมาย หากผู้ขับขี่หรือบุคคลใดก่อความวุ่นวาย หรือไม่ให้ความร่วมมือ เจ้าหน้าที่จะต้องควบคุมอารมณ์
หากมีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่น หรือเจ้าหน้าที่อาสาสมัครร่วมปฏิบัติงาน ให้หัวหน้าจุดตรวจชี้แจงผู้ร่วมปฏิบัติงานให้เข้าใจในอำนาจหน้าที่ การแต่งกายของอาสาสมัคร ต้องมีสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายบอกฝ่ายที่ไม่ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน หรือเข้าใจผิด และไม่แต่งกายคล้ายกับเครื่องแบบตำรวจเด็ดขาด
ที่สำคัญให้ติดตั้ง "กล้องวงจรปิด" หรือกล้องชนิดอื่นที่สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ต้องบันทึกภาพการปฏิบัติได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสามารถใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด และประกอบการตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อมีการร้องเรียน ตลอดจนเป็นหลักประกันให้เกิดความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้

สถานที่ตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ ต้องเป็นสถานที่เปิดเผย เป็นจุดที่มีแสงสว่างเพียงพอ เพื่อเป็นหลักประกันให้เกิดความโปร่งใส และป้องกันความเคลือบแคลงสงสัยจากประชาชน
โมเดลนี้ได้ทดลองสาธิตให้ดูแล้วเมื่อวานนี้ (1 เม.ย.) บนถนนประเสริฐมนูญกิจ แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ลงตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมเปิดเผยว่า คืนนี้นับเป็นคืนแรกของการกลับมาตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันและปราบปรามอุบัติเหตุและอาชญากรรมบนท้องถนน ประกอบกับใกล้ช่วงหยุดยาวในเทศกาลวันสงกรานต์ที่จะถึงนี้ โดยการตั้งจุดตรวจด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์จะมีการตั้งกรวย สัญลักษณ์เตือนก่อนถึงจุดตรวจ ระยะไม่น้อยกว่า 100 เมตร

กรณีประชาชนพบเห็นด่านลอย หรือตำรวจเรียกตรวจโดยที่มีลักษณะต้องสงสัยสามารถร้องเรียนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่สายด่วน บก.จร. 1197 หรือสายตรงด่านตรวจแอลกอฮอล์ 1599
ขณะที่ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ฐานะดูแลงานจราจร เปิดเผยภาพรวมการตั้งด่านในพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นวันแรก ว่า มีการตั้งด่านทั้งหมดจำนวน 50 จุด ด่านเมา 13 จุด ด่านกวดขันวินัยจราจร 37 จุด ส่วนผลการจับกุมผู้ขับขี่รถระหว่างเมาสุรา 28 ราย บางรายมีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 123 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ การจับกุมผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.จราจร 39 ราย กรณีดังกล่าวผลการจับกุมยังค่อนข้างน้อยเนื่องจากเป็นการเริ่มกลับมาตั้งด่านครั้งแรก
เน้นพูดคุยทำความเข้าใจ ยกเว้น "เมาแล้วขับ"
เบื้องต้นจะเน้นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบเป็นหลักในกรณีผิดตาม พ.ร.บ.จราจร แต่กรณีขับขี่ขณะเมาสุรา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถว่ากล่าวตักเตือนได้ เมื่อทำการตรวจสอบพบก็ต้องส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

ส่วนกรณีมีการตั้งด่านเพิ่มนั้น อาจจะมีการตั้งด่านช่วงกลางวันเพิ่มเติม แต่ต้องระมัดระวังอาจจะทำให้การจราจรติดขัด แต่จะเริ่มมีการกลับมาตั้งช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งให้ทางสถานีตำรวจนครบาลแต่ละแห่งทำการสำรวจ อย่างน้อยอาจจะมีการกำหนดให้มีการตั้งด่านกวดขันวินัยจราจรเพิ่มเติมสถานีตำรวจละ 1 จุด คาดว่าจะมีการเริ่มตั้งด่านกลางวัน-กลางคืน ได้ประมาณวันที่ 5 เม.ย.นี้ ส่วนด่านตรวจเมาจะให้ บก.จร.ดูเป็นหลัก.
เรียบเรียง : gravity_ki
กราฟิก : Theerapong.c