ศาลอาญา พิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1-6 คดีรีวิวเครื่องสำอางปลอมเมจิกสกิน โดยศาลสั่งจำคุกจำเลย 2-3 คนละ 20 ปี 5 เดือน จำเลยที่ 4-6 จำคุก 20 ปี ปรับกว่าแสนบาท โดยรอลงอาญา 3 ปี และจ่ายเงินชดใช้เหยื่อ

ที่ศาลอาญา เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 24 มีนาคม 2564 ศาลได้มีคำพิพากษาเกี่ยวกับคดีรีวิวสินค้าเวชสำอางเมจิกสกิน และจำหน่ายสินค้าปลอมรวม 2 สำนวนคดีแรกเป็นคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัทเมจิกสกินจำกัด โดย นายกรณ์ พวงสน กับนางวรรณภา พวงสน สามีภรรยา นายพีรนิธิ ติรณวัตถุภรณ์ และ นายกสิทธิ์ หรือ อเล็กซ์ วอชิงตัน หรือ หญิงย้วย เน็ตไอดอลชื่อดัง กับนายไมยสิทธิ์ สว่างธรรม เป็นจำเลยที่ 1-6 ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีเมื่อระหว่างปี 2560 ถึง 61 จำเลยได้ร่วมกันเปิดโรงงานผลิตเครื่องสำอางจำพวกครีมทาผิวหนังให้เป็นสีขาว และจำพวกสบู่นำออกจำหน่ายยี่ห้อ mezzo โดยอ้างว่าผลิตโดยบริษัทเมจิกสกิน แต่ความจริงจำเลยไปให้คนอื่นผลิต จากนั้นได้ให้บุคคลผู้มีชื่อเสียงนำไปรีวิวตามอินเทอร์เน็ต เพื่อชักชวนให้บุคคลทั่วไปเข้าซื้อสินค้า และบริการปรากฏว่ามีผู้ซื้อสินค้าไปใช้แล้วได้รับผลไม่ตรงกับที่กล่าวโฆษณาชักชวน

คดีแรกศาลพิพากษาว่าจำเลยที่ 2-6 มีความผิดตามฟ้องทุกฐาน ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 และ 3 คนละ 59 ปี 5 เดือนปรับคนละ 10,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 4-6 คนละ 59 ปี ปรับคนละ 10,000 บาทและจำคุกฐานฉ้อโกงประชาชนอีกคนละ 20 ปี แต่เนื่องจากตามกฎหมายอาญามาตรา 91 ให้จำคุกสุทธิจำเลยที่ 2 และ 3 คนละ 20 ปี 5 เดือนปรับ 175,000 บาท และจำคุกจำเลยที่ 4-6 คนละ 20 ปีปรับ 147,000 บาท 


ศาลเห็นว่า จากรายงานการสืบเสาะประกอบคำรับสารภาพพฤติการณ์ของจำเลย ในการจำหน่ายสินค้าดังกล่าวไม่ถึงขนาดเป็นอันตรายและแรงถึงกับไม่ไปให้จำเลยได้โอกาสกลับตัวเป็นคนดีและกลับไปทำงานหาเงินมาชดใช้กับผู้เสียหาย ประกอบกับก่อนหน้านี้ได้มีการเยียวยาจนเป็นที่พอใจและไม่ติดใจเอาความจำเลยก็มี ทั้งจำเลยไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อนจึงให้จำเลยที่ 2 ถึง 6 ได้รอลงอาญาไว้เป็นจำนวน 3 ปี กลับให้คืนเงินกับผู้เสียหายแต่ละคนครั้งนี้จำเลยได้เอาเงินมาวางศาลแล้วตั้งแต่รายละ 30,000 บาทสูงสุดถึง 4.1 ล้านบาท

...

อีกสำนวนเป็นคดีที่พนักงานอัยการ ยื่นฟ้อง บริษัทเมจิกสกิน จำกัด โดย นายกร พวงสน และนายกรในฐานะส่วนตัว นางวรรณภา พวงสน กับ นางสาวตรีชฎาใจสบาย เป็นจำเลยที่ 1 ถึง 4 ตามลำดับในข้อหาฉ้อโกงประชาชนและความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง โดยศาลพิเคราะห์ว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องจำคุกจำเลยที่ 2 ถึง 3 คนละ 20 ปี 4 เดือนปรับคนละ 3 แสนเจ็ดหมื่นเจ็ดพันบาท ส่วน จำเลยที่ 4 ศาลพิพากษาจำคุก 20 ปี 1 เดือนกับ 3 แสนหกหมื่นเจ็ดพันบาท แต่วิธีการการจำหน่ายสินค้าดังกล่าวไม่ถึงกับมีลักษณะเป็นอันตรายถึงขนาดที่จะไม่เปิดโอกาสให้จำเลยได้กลับตัวเป็นคนดี และเพื่อไปทำงานหาเงินมาชดใช้เยียวยาผู้เสียหาย โดยก่อนหน้านี้จำเลยได้นำเงินบรรเทาผลร้ายผู้เสียหายรวมทั้งสิ้น 91 ราย จำนวนรวมทั้งสิ้น 1,600,000 บาท ดังนั้นโทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาไว้คนละ 3 ปี.