ระทึกกลางคอนโดย่านรัตนาธิเบศร์ หนุ่มตัวแทนขายประกันชีวิต เนียนขึ้นลิฟต์ชั้น 12 ไม่พูดพร่ำทำเพลงชักปืนยิงอดีตภรรยา 8 นัด ก่อนจ่อขมับฆ่าตัวหนีความผิด ผบช.ภาค 1 รุดตรวจสอบยันผู้ก่อเหตุ และผู้ตายเพิ่งเลิกรากันได้ประมาณ 3 เดือน ส่วนแฟนใหม่ถูกยิงเข้าที่แขนซ้าย วิ่งหลบกระสุนรอดมาได้
เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 18 มีนาคม 2564 ร.ต.อ.นิพนธ์ พลสวัสดิ์ รองสว.(สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งบนถนนรัตนาธิเบศร์ จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์, พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.ทองรชฎ เหรียญสุวงษ์ รอง ผกก.ป., พ.ต.ต.บรรจบ ราชกิจ สว.สส., พ.ต.ต.สมศักดิ์ รักษาชล สวป. และกำลังตำรวจสืบสวนสายตรวจ แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุห้องพักชั้น 12 ประตูหน้าห้องแบบคีย์การ์ดถูกยิงจนพังเสียหาย ที่พื้นพบปลอกกระสุนขนาด 380 ซุปเปอร์ ตกเกลื่อน จำนวน 12 ปลอก ภายในห้องข้าวของพังเสียหายกระจายเกลื่อน ในห้องนอน พบศพนายชินพรรธน์ ปิติถาวรทรัพย์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/12 หมู่ 14 ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นั่งเหยียดขาหลังพิงผนังห้องอยู่ปลายเตียงนอน สภาพศพนุ่งกางเกงสแล็คสีเทา สวมเสื้อแขนยาวลายตารางขาว-ดำ ข้างขาด้านขวา พบอาวุธปืนที่ดัดแปลงเป็นปืนจริงตกอยู่ ตรวจสอบมีบาดแผลถูกยิงเข้าขมับขวา 1 นัด กระเป๋ากางเกงข้างขวาพบกระสุนปืน 8 นัด ส่วนบนเตียงนอน พบศพ นางรินทร์ลภัส ปิติถาวรทรัพย์ อายุ 29 ปี อดีตภรรยา สภาพศพนอนหงาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะและใบหน้า 6 นัด ไหล่ซ้าย 1 นัด แขนซ้าย 1 นัด ผนังห้องพบรอยเลือดสาดกระเด็น พบปลอกกระสุน 9 ปลอก นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน คือนายวีรพงศ์ ปานณรงค์ อายุ 32 ปี แฟนใหม่ถูกยิงเข้าที่แขนซ้าย 1 นัด ได้รับบาดเจ็บได้วิ่งหนีตายจากคอนโด ไปขอความช่วยเหลือจาก รปภ.อีกคอนโด แจ้งตำรวจนำตัวส่ง รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์
...
จากการสอบสวน น.ส.ทัศนีย์ รักษาชาติ อายุ 46 ปี กล่าวว่า ตนเป็นเพื่อนกับผู้ตายทั้งสองคน รวมถึงคนเจ็บด้วย นายชินพรรธน์ และนางรินทร์ลภัส เป็นอดีตสามีภรรยากัน มีลูกด้วยกัน 3 คน ทำงานเป็นตัวแทนขายประกันชีวิตและได้เลิกรากันมาแล้วประมาณ 3 เดือน โดยฝ่ายหญิงไปมีแฟนใหม่ ซึ่งก็เป็นเพื่อนกันทั้ง 3 คน ก่อนหน้าก็ไม่มีปัญหาอะไร นายชินพรรธน์ ก็ยังพูดคุยกับนางรินทร์ลภัส เพราะทำงานอยู่ที่เดียวกัน จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. นายชินพรรธน์ ได้โทรมาบอกว่าให้ช่วยขับรถให้หน่อย เนื่องจากเมาไม่สามารถขับรถได้ จะไปหานางรินทร์ลภัส ตนก็ห้ามว่าอย่าไปยุ่งกับเขาเลย แต่นายชินพรรธน์ ไม่ฟัง ตนจึงได้บอกว่าให้มารับที่ห้องพากันขับรถไปที่คอนโดที่นางรินทร์ลภัส พักอาศัยอยู่ แต่เข้าไปไม่ได้เนื่องจากไม่มีคีย์การ์ด ได้นั่งรออยู่ที่ล็อบบี้
สักพักนายชินพรรธน์ ก็เดินไปหาช่างประจำคอนโด บอกว่าลืมคีย์การ์ดให้ช่วยเปิดประตูให้หน่อย และส่งขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องดังกล่าว พอไปถึงหน้าห้องนายชินพรรธน์ ไม่พูดพร่ำทำเพลงชักอาวุธปืนยิงใส่ประตูหน้าห้องจนพัง และถีบประตูบุกเข้าไป ตนตกใจได้วิ่งหนีไปที่ลิฟต์ หลังจากนั้นตนกำลังจะเดินมาที่ห้อง ก็พบนายวีรพงศ์ แฟนใหม่วิ่งหนีออกมาจากห้อง โดยนายชินพรรธน์ ไล่ยิงตามหลังมา เมื่อเข้าไปในห้องพบว่าทั้งคู่กำลังทุบตีกัน โดยตนพยายามจะเข้าไปห้าม และแย่งปืนจากนายชินพรรธน์ แต่แย่งไม่ได้ ก่อนที่นายชินพรรธน์ จะกระหน่ำยิงนางรินทร์ลภัส และยิงตัวตายตาม ตนจึงวิ่งลงมาแจ้ง รปภ.ให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต่อมา พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยว่า เมื่อเวลา 03.00 น. นายชินพรรธน์ ผู้ก่อเหตุเป็นสามีเก่า ก่อเหตุยิงนางรินทร์ลภัส ปิติถาวรทรัพย์ ภรรยาที่เพิ่งเลิกรากันได้ประมาณ 3 เดือน โดยมาที่คอนโด เพื่อจะขึ้นไปหาผู้ตาย แต่เจ้าหน้าที่ รปภ.ไม่ให้ขึ้นไป เนื่องจากไม่มีคีย์การ์ด พอดีเจอช่างประจำคอนโด ผู้ก่อเหตุบอกว่าลืมคีย์การ์ดและเดินตามเข้าลิฟต์ไปด้วย เมื่อมาถึงห้องที่เกิดเหตุ ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ประตูห้องจนพัง ก่อนเข้าไปใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงภรรยาเก่าจนเสียชีวิต ส่วนเพื่อนชายคนใหม่ถูกยิงเข้าที่แขนซ้าย ก่อนจะวิ่งหนีตายหลบกระสุน ปืนออกมาได้ ทางคดีคงไม่มีอะไรซับซ้อน ได้สั่งให้พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนนทบุรี เก็บวัตถุพยาน สอบปากคำพยานบุคคล ประกอบสำนวนคดี
ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนแบลงค์กัน ผู้ก่อเหตุได้นำมาดัดแปลงนำมาใช้ก่อเหตุยิงครั้งนี้.