รวบ "ไอ้โอ๋" หลังหนีตำรวจหนองเรือ กราบศาลเจ้าปู่สะเดาะกุญแจมือ สารภาพเมาเหล้าเสพยาบ้าจนเกิดอารมณ์ ต้องบุกข่มขืนยายวัย 79 ปี โดยที่หลบหนีการจับกุมได้เพราะอาศัยตอนตำรวจเผลอ

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 16 มีนาคม 2564 ที่ทุ่งนาบ้านเหมือดแอ่ ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น โดยการนำของ พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 และ พ.ต.อ.ภพกร กวินโยธิน ผกก.สภ.หนองเรือ นำทีมร่มบินออกบินสำรวจเส้นทางที่คาดว่านายโอ๋ หรือนายอัจฉริยะ สีทา อายุ 24 ปี ชาวบ้าน ม.1 ต.บางภาษี อ.บางเลน จ.นครปฐม คนร้ายในคดีข่มขืนนางยา (นามสมมติ) อายุ 79 ปี เป็นผู้พิการขาขวาขาด ขณะนอนอยู่ในห้องพักภายในสวนปฏิบัติธรรมบ้านหนองปอ ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 13 มี.ค.2564 โดยร่มบินได้ขึ้นบินจำนวน 4 ลำ บินวนรอบพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อหาร่องรอยที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี ในขณะเดียวกันกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 สืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น และสืบสวน สภ.หนองเรือ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกตรวจทางภาคพื้นดิน คู่ขนานกับการบินของร่มบิน

...

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้สอบสวน นายวร มาตย์ชาลี อายุ 62 ปี ชาวบ้านเทพเทวัน เจ้าของไร่อ้อย จุดที่นายโอ๋เข้ามาพักและถอดกุญแจมือออกจากข้อมือ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยนายวรกล่าวว่า นายโอ๋มาที่สวน เพราะมาหาลูกชาย โดยขับขี่รถจักรยานยนต์สีแดง ไม่ทราบทะเบียนเข้ามา เมื่อมาถึงก็มานั่งร้องไห้ ขอความช่วยเหลือ พร้อมกับบอกว่า ตัวเองแหกคุกและหนีตำรวจหนองเรือ ลักรถจักรยานยนต์ชาวบ้านขับขี่มา โดยมีกุญแจมือคล้องที่แขนสองข้าง อยากให้ช่วยเอากุญแจมือออกให้ด้วย เลยบอกว่า มึงไปกราบที่ศาลปู่ตาหนององค์ ขอให้ท่านช่วย จากนั้นนายโอ๋ก็เดินไปกราบไหว้ที่ศาลประมาณ 10 นาที นายโอ๋ก็ส่งเสียงร้องด้วยความดีใจว่า ปู่ช่วยถอดกุญแจมือออกให้แล้ว จากนั้นก็เห็นนายโอ๋เดินถือกุญแจมือมาที่กระท่อมวางไว้ จากนั้นก็เดินไปนั่งคุยกับเพื่อนๆ จนถึงเย็นจึงขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไป

เจ้าของไร่อ้อย จุดที่นายโอ๋เข้ามาพัก กล่าวอีกว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายโอ๋ยังขับขี่รถจักรยานยนต์มาหาที่สวน แต่เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ โดนบอกว่า ไปหาน้าที่ไร่กระชาย จึงคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยแนะนำว่าให้เอารถไปคืนที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน และให้น้าพาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องจะได้ไม่เลวร้าย จากนั้นนายโอ๋จึงขับขี่รถจักรยานยนต์กลับออกไป

ต่อมาเวลา 18.30 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสามารถจับกุมตัวนายโอ๋ได้ ขณะนั่งอยู่ในกระท่อมนาของชาวบ้าน ภายในไร่อ้อย ห่างจากสวนปฏิบัติธรรมไปประมาณ 2 กม. คุมตัวไว้พร้อมรถจักรยานยนต์คันที่ลักขโมยไปหลังวิ่งออกจาก สภ.หนองเรือ คุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.หนองเรือ โดยได้ทำการสอบสวนประมาณ 1 ชม.

พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 กล่าวภายหลังการสอบสวนว่า นายโอ๋ ให้การรับสารภาพว่า ได้ทำการข่มขืนยายวัย 79 ปี ที่นอนในกระท่อมภายในสวนปฏิบัติธรรมจริง โดยก่อนเกิดเหตุได้ดื่มสุราและเสพยาบ้าด้วย 2 เม็ด ทำให้มีอารมณ์จึงก่อเหตุขึ้น สำหรับการหลบหนีก็อาศัยช่วงที่ จนท.เผลอ รีบเดินและวิ่งหนีไปขณะที่ยังสวมใส่กุญแจมือ จากนั้นได้ขโมย จยย.ของชาวบ้านที่เสียบกุญแจ จอดไว้ริมถนน ขับขี่หนีไปหาเพื่อนที่ไร่อ้อย อยู่กับเพื่อนจนค่ำ จึงขับขี่ จยย.ตระเวนไปตามที่ต่างๆ ในพื้นที่ เพราะทราบข่าวจากชาวบ้านว่าตำรวจตามจับกุมตัวอยู่ จากนั้นได้กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านน้าในสวนกระชาย โดยหาเงินในบ้านได้เพียง 12 บาท จากนั้นไปซื้อยาเส้นที่ร้านค้าในหมู่บ้าน จำนวน 8 บาท เหลือเงินติดตัว 4 บาท ขณะซื้อยาเส้นชาวบ้านจำได้ จึงรีบขี่ จยย.หนีมาหลบที่กระท่อมในไร่อ้อยเพื่อหาข้าวกิน ก่อนจะหิวจนหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมากำลังจะขี่รถไปหาขอข้าวชาวบ้านกินจึงถูกตำรวจจับกุมตัวได้

...

ผบก.สส.ภ.4 กล่าวอีกว่า การจับกุมนายโอ๋ในครั้งนี้ จนท.ได้ขอหมายจับจากศาลจังหวัดชุมแพแล้วจำนวน 2 หมายจับ คือ หมายจับที่ จ.21/2564 ลงวันที่ 16 มีนาคม 2564 ในข้อหาลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ และหมายจับที่ จ.22/2564 ลงวันที่ 16 มีนาคม 2564 ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่มิไช่ภรรยาตน ส่วนข้อหาอื่นๆ นั้น หลังการสอบสวนก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมตามขั้นตอนต่อไป นอกจากนั้นยังได้รับการประสานจาก ตำรวจภูธรนครปฐมให้ตรวจดีเอ็นเอของผู้ต้องหา เพื่อเปรียบเทียบกับคนร้ายที่เคยก่อเหตุข่มขืนฆ่าผู้สูงอายุในพื้นที่ภาค 7 ด้วย แต่ในเบื้องต้นนายโอ๋ให้การปฏิเสธว่าไม่เคยก่อเหตุในพื้นที่ภาค 7 อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เก็บดีเอ็นเอของผู้ต้องหาเพื่อส่งตรวจแล้วเช่นกัน

ส่วน พ.ต.อ.ภพกร กวินโยธิน ผกก.สภ.หนองเรือ กล่าวถึงการที่ผู้ต้องหาให้การว่าหนีได้เพราะตำรวจเผลอนั้น ในส่วนนี้จะได้มีการปรับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่สิบเวรยาม ให้ตำรวจที่มีความเข้มแข็งร่างกายคล่องแคล่วมาปฏิบัติหน้าที่ในจุดดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำอีก.

...