ตำรวจเดินเท้าพิสูจน์จากรถถึงจุดเผานั่งยาง "น้องปอ" สาววัย 19 ปี ระบุเป็นไปได้ที่แฟนหนุ่ม ผู้ต้องหาที่ร่างกายแข็งแรงนำร่างผู้เสียชีวิตมายังจุดเผาอำพรางเพียงคนเดียว ส่วนปมสังหารเชื่อว่าเกิดจากแรงรักและความหึงหวง
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 10 มี.ค.64 พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ ฉันทวราลักษณ์ รอง ผบช.ภาค 6 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประมุข ปิ่นปลื้มจิตต์ ผกก.สภ.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่ นายแม้ว อายุ 18 ปี นำศพคู่หมั้นสาว คือ นางสาวจุฬารัตน์ กองแก้ว "น้องปอ" อายุ 19 ปี ไปเผานั่งยางภายในป่าลึกท้ายสวนยางพารา บ้านม่วงหอม หมู่ 11 ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก อีกครั้ง เพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติม และพิจารณาถึงความเป็นไปได้หรือไม่ที่ นายแม้ว จะนำศพคู่หมั้นสาวมาเผาอำพรางคดีเพียงคนเดียวตามคำให้การกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี
พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ เปิดเผยหลังจากเดินเท้าจากจุดที่จอดรถยนต์เข้าไปกลางลำห้วยซึ่งแห้งสนิท ประมาณ 30 ก้าว ซึ่งเป็นจุดเผาร่างผู้เสียชีวิตด้วยยางรถยนต์จำนวน 3 เส้น เหลือเพียงเศษกระดูก พบว่า สภาพพื้นที่ยังคงมีร่องรอยไหม้ บอกเพียงว่ามีความเป็นไปได้ที่ผู้ต้องหาพาร่างผู้เสียชีวิตลงจากรถกระบะแล้วเคลื่อนย้ายไปที่จุดอำพราง เนื่องจากผู้ตายร่างเล็ก และผู้ต้องหาเป็นหนุ่มวัยฉกรรจ์ร่างกายแข็งแรง ประกอบกับจังหวะที่กระทำความผิดมีแรงกระตุ้นให้นำร่างไปคนเดียวได้ แต่ในทางวิทยาศาสตร์ก็ต้องพิสูจน์ถึงพยานแวดล้อมและกล้องวงจรปิดใกล้เคียงตั้งแต่บ้านที่ผู้ต้องหาก่อเหตุ และตามเส้นทางที่ขับรถยนต์กระบะมาต่อไป และเชื่อว่าบริเวณจุดที่เผาอำพราง ผู้ต้องหาเคยเดินทางมาสถานที่แห่งนี้แล้วน่าจะมีความชำนาญในเส้นทางและพื้นที่
...
ส่วน พ.ต.อ.ประมุข ปิ่นปลื้มจิตต์ ผกก.สภ.แก่งโสภา ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ต้องหาให้การเบื้องต้น คือ ฆ่าบีบคอผู้ตายในช่วงเช้า และรอเวลาจังหวะช่วงกลางวันนำพาศพมาทำการเผานั่งยางอำพราง ส่วนระยะทางที่ผู้ต้องหานำพาศพจากรถกระบะมาจุดเผานั่งยางประมาณ 50 เมตร ส่วนคำถามที่ว่า ผู้ต้องหานำพาศพด้วยตัวคนเดียวหรือไม่ ซึ่งกระบวนการต่างๆ ที่ผู้ต้องหาให้การนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบตามพยานหลักฐานปรากฏไปก่อน หากมีผู้ร่วมกระทำความผิด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินการเพิ่มเติมอีก กรณีที่ผู้ต้องหาที่เดินทางมามอบตัวแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ทางตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายไปแล้ว.