จับแล้ว หนุ่มชะอวดคลั่งฉุดเมียลูก ยิงถล่มรถตำรวจ สาดกระสุนใส่รองสวป.-ผญบ.เจ็บ หลังหนีกบดานแล้วย้อนกลับมาบ้านญาติ อ.ชะอวด ถูกรวบได้ พบอาวุธปืนเอ็ม16 กระสุนจำนวนมาก เจ้าตัวสารภาพ ขณะที่แม่แฟนสาวรู้สึกโล่ง และพร้อมให้อภัยหากชดใช้กรรมที่ก่อเหตุไว้หมด แต่ต้องมาสู่ขอลูกสาวตามประเพณี
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 มี.ค.64 ที่ บก.ภ.นครศรีธรรมราช พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายเรืองศักดิ์ เรือนแก้ว อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกระบี่ ในข้อหาพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทรายขาว จ.กระบี่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ม.ค.64 เวลาประมาณ 13.00 น. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราชและตำรวจ สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ได้จู่โจมเข้าจับกุมนายเรืองศักดิ์ได้ขณะกบดานในบ้านพักเลขที่ 26 หมู่ 3 ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เมื่อสายวันที่ 28 มี.ค.64 โดยจับกุมได้พร้อมอาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก กระสุนเอ็ม 16 จำนวน 20 นัด แม็กกาซีน 1 อัน คุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.ชะอวด ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
พล.ต.ต.นันทเดช เผยว่า คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อสายวันที่ 4 ม.ค.64 นายเรืองศักดิ์ ผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์เก๋งสีขาว ยี่ห้อนิสสัน ทะเบียน กฉ 7589 เพชรบุรี ไปก่อเหตุง้อภรรยา และไปทะเลาะวิวาทกับญาติฝ่ายภรรยาที่บ้านเลขที่ 16/1 หมู่ 6 ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ แล้วฉุดภรรยาพร้อมลูกน้อยวัย 13 วันขึ้นรถพาหลบหนี จนทางตำรวจ สภ.ทรายขาว ได้นำกำลังไประงับเหตุ และถูกนายเรืองศักดิ์ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงทะลุกระจกหน้ารถตัวเอง กระสุนถูก ร.ต.ท.ทรงฤทธิ์ หนูสาย สายตรวจ สภ.ทรายขาว ได้รับบาดเจ็บ และผู้ใหญ่บ้านได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่นายเรืองศักดิ์ขับรถหลบหนีไป และมีการปล่อยตัวภรรยาและลูกน้อยลงจากรถระหว่างทางในพื้นที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช แล้วหลบหนีนั้น
...
กระทั่งล่าสุดทางตำรวจ สภ.ชะอวด และ กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้สืบทราบว่า นายเรืองศักดิ์ได้ย้อนกลับมาบ้านพัก จึงนำกำลังไปล้อมจับกุมได้ดังกล่าว คุมตัวมาสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยเบื้องต้นทางตำรวจได้คุมตัวนายเรืองศักดิ์ดำเนินคดีในข้อหา พ.ร.บ.อาวุธปืน และอายัดตัวส่งให้ตำรวจ สภ.ทรายขาว จ.กระบี่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปอีกคดี และยังพบปัสสาวะสีม่วง เนื่องจากติดยาเสพติดอย่างหนัก และเพิ่งเสพยาเสพติดมาอีกด้วย
พล.ต.ต.นันทเดช เผยอีกว่า สำหรับประวัตินายเรืองศักดิ์ ก่อนนี้เคยถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหามีอาวุธปืนสงครามไว้ในครอบครอง, คดีเสพยาเสพติด, คดี พ.ร.บ.อาวุธปืน, คดีพยายามฆ่าเจ้าพนักงานฯ และที่สภ.ชะอวด เป็นคดีที่ 5 ของนายเรืองศักดิ์
ด้าน ร.ต.ท.ทรงฤทธิ์ หนูสาย รอง สวป.สภ.ทรายขาว ซึ่งเป็น 1 ในเหยื่อกระสุนของนายเรืองศักดิ์ ได้เผยหลังทราบข่าวการจับกุมตัวนายเรืองศักดิ์ ว่า ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร เพราะผู้ก่อเหตุถึงจะหลบหนียังไงก็คงไม่พ้นเงื้อมมือของตำรวจไปได้ อย่างไรก็ตามในส่วนตัวตนไม่ได้ติดใจ หรือคิดโกรธเคืองผู้ก่อเหตุ เพราะเข้าใจว่ายังเป็นวัยรุ่นที่อาจจะมีอารมณ์ร้อน แต่อยากฝากเตือนนายเรืองศักดิ์ ว่าหลังจากรับโทษทางกฎหมายแล้ว อยากให้กลับตัวเป็นคนดี จะคิดจะทำอะไรก็ให้ใช้สติให้มาก อย่าใช้อารมณ์ก่อเหตุอีก ปัญหาทุกอย่างจะแก้ไขได้ด้วยการพูดคุยเจรจา การก่อเหตุแบบนี้อาจจะเป็นผลเสียต่อคนที่เรารักได้ ส่วนการทำงานของตำรวจก็เป็นปกติที่ต้องไปที่เกิดเหตุแม้จะเสี่ยงก็ต้องไป หากไม่ไปก็ถูกต่อว่าได้อีก
ขณะเดียวกัน นางวันดี พวงนุ่น อายุ 49 ปี แม่ของ น.ส.กัซมาร์ กล่าวด้วยว่า ตนเองก็รู้สึกสบายใจหลังทราบว่าตำรวจสามารถจับกุมตัวนายเรืองศักดิ์ได้แล้ว แต่ในอนาคตเมื่อนายเรืองศักดิ์รับโทษทางกฎหมายแล้วจะกลับมาคบหากับลูกสาวอีก ก็อยากขอให้ดำเนินการตามประเพณีให้ถูกต้อง มาขอขมาและมาทำพิธีแต่งงานตามหลักศาสนา ตนพร้อมจะให้อภัยกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และอยากให้นายเรืองศักดิ์กลับตัวเป็นคนดี รักครอบครัว ในส่วนของลูกสาวของตนนับแต่วันเกิดเหตุมา ตนยังไม่มีโอกาสได้พบหน้าเลย แม้แต่โทรศัพท์พูดคุยกันก็ยังไม่มีการโทรมาคุย ทุกวันนี้ตนจึงยังกังวล เป็นห่วงว่าลูกและหลานมีความเป็นอยู่อย่างไร อยู่สุขสบายดีหรือไม่ หากลูกเห็นข่าวอยากให้ติดต่อกลับมาหาตนด้วย เพื่อจะสอบถามสารทุกข์ และสอบถามว่าจะกลับมาพักที่บ้านก่อนหรือไม่ระหว่างนายเรืองศักดิ์ต้องรับโทษ หรือถ้าลูกอยากจะอยู่ที่บ้านของนายเรืองศักดิ์ ตนก็ไม่ขัดข้อง แค่ขอให้ได้รู้ว่าลูกอยู่สุขสบายดีไม่ลำบาก.