ตำรวจบางเขน รวบหนุ่มวัย 33 ตำแหน่งระดับผู้บริหาร บ.อสังหาริมทรัพย์ บงการอุ้มสาวทอม ทวงหนี้ 2 ล้านบาทหลังสาวทอมไม่ยอมคืนเงินแล้วพยายามหนีหนี้ เบื้องต้นให้การปฏิเสธไม่ได้สั่งอุ้มหรือทวงเงิน

จากกรณีที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านบางเขน เผยให้เห็นเหตุการณ์ขณะชาย 4 คน ขี่รถจักรยานยนต์ และรถยนต์เก๋งฮอนด้าแจ๊ซ สีขาว เข้ามาจอดในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านบางเขน ก่อนก่อเหตุอุ้มสาวทอมรายหนึ่งขึ้นรถไป โดยก่อนขึ้นรถ มีการโต้เถียงกันเรื่องการกู้ยืมเงิน โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 64 ที่ผ่านมา โดยต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหา 4 ราย ที่ก่อเหตุตามภาพกล้องวงจรปิด ในข้อหาร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ข่มขืนใจใช้กำลังประทุษร้าย ทำให้เกิดความตื่นตระหนกตกใจกลัว ก่อเหตุตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปในเวลากลางคืน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ก.พ.64 ที่ สน.บางเขน มีรายงานข่าวว่า พ.ต.อ.อรรถพล มีเสียง ผกกสน.บางเขน ร่วมกับ พ.ต.ท.สุนทร ไชยรักษา รอง ผกก.สส.สน.บางเขน พ.ต.ต.สมใจ รอดยัง สว.สส.สน.บางเขน พ.ต.ต.พรชัย ว่องประเสริฐการ สว.สส.สน.บางเขน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน ร่วมกันจับกุมตัว นายหฤษฎ์ ใจสุข อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 302/2564 ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564

...

ในความผิดฐานร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือ โดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้นโดยได้กระทำเพื่อให้ผู้ถูกข่มขืนใจทำเอกสารสิทธิ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากสรีภาพในร่างกาย และให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก่ผู้กระทำ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นหตุให้ผู้นั้นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ร่วมกันลักทรัพย์ โดยกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ร่วมกับพวกอีก 4 คน โดยผู้ต้องหารายนี้เป็นเจ้าของเงิน และยังเป็นผู้ที่พาสาวทอมกลับมาส่งยังคอนโดที่เกิดเหตุ โดยจับกุมได้ภายในคอนโดแห่งหนึ่งย่านนาคนิวาส เขตลาดพร้าว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

เบื้องตนจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ให้การอ้างว่า รู้จักกับสาวทอมมาก่อนหน้านี้ โดยสาวทอมต้องการทำธุรกิจนำสินค้าจากประเทศจีนเข้ามาขายในประเทศ แต่ไม่มีเงินทุนจึงมาขอยืมเงินจำนวน 2 ล้านบาท ที่ให้ไปเพราะเห็นเป็นคนรู้จักกัน แต่ต่อมาทราบว่าสาวทอมไม่ได้นำเงินไปลงทุน แต่กลับนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันจนหมด อีกทั้งหลบหนีติดต่อไม่ได้ ต่อมาทราบว่าสาวทอมมาหลบซ่อนที่คอนโดจุดเกิดเหตุ จึงให้คนออกมาทวงเงินจนเกิดเหตุตามคลิปที่มีการเผยแพร่ไปก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนอุ้ม และไม่ได้มาทวงเงินในวันเกิดเหตุด้วย

ภายหลังการสอบปากคำ นายหฤษฎ์ ใจสุข เปิดเผยว่า ตนเองไม่ได้มีเจตนาจะไปอุ้มคู่กรณี เพียงแค่ให้คนไปทวงเงินเท่านั้น เพราะคู่กรณีขาดการติดต่อมาหลายเดือนแล้ว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวเข้าห้องขัง

รายงานข่าวแจ้งว่า จากแนวทางการสืบสวน ภายหลังเกิดเหตุ ได้มีรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 สีดำ ทะเบียน ฆง 2921 กทม. ได้ขับรถมาส่งสาวทอมรายดังกล่าวที่คอนโดที่เกิดเหตุ หลังชุดอุ้มได้พาสาวทอมไปให้นายหฤษฎ์ ย่านร่มเกล้า เพื่อพูดคุยและทำสัญญายืมเงินใหม่ และได้ยึดโทรศัพท์มือถือและนาฬิกา และเงินจำนวน 2,100 บาทเอาไว้

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบจนทราบว่าเจ้าของรถคือนายหฤษฎ์ ใจสุข จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถติดตามจับกุมได้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนเพื่อติดตามตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุตามภาพกล้องวงจรปิดมาดำเนินคดี อย่างไรก็ตามด้าน นางสาวศรัณ ชาญศิริ อายุ 38 ปี สาวทอมผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้แล้ว.