บิ๊กใหม่ มาติดตามคดีน้องบ๊อบบี้ ผลชันสูตรชี้ตายเพราะตับแตกจากการถูกของแข็งทุบตี ขณะที่คดีคืบหน้า ระบุผู้ต้องสงสัยได้ และมีหลักฐานพอเอาผิด เตรียมขอออกหมายจับเร็วๆ นี้ ไม่ยืดเหมือนคดีน้องชมพู่
เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 64 พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีสังหารโหด ด.ช.ธนโชต แปงเรือน อายุ 7 ปี ซึ่งถูกทุบตีด้วยของแข็ง และนำศพไปไว้บริเวณป่ากล้วย พื้นที่บ้านเวียงคำฟ้า ม.9 ต.ดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย โดยมีการแจ้งความคนหายตั้งแต่กลางคืนวันที่ 16 ม.ค. และพบศพในช่วงบ่ายวันที่ 17 ม.ค.
จากนั้นเวลา 08.30 น. รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางไปที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เพื่อประชุมรับฟังความคืบหน้าของคดี โดย พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบช.ภ.จว.เชียงราย มอบหมายให้ พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.ทิวา สกุลวัฒนะ ผกก.สภ.เวียงเชียงรุ้ง พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนและสอบสวนที่เกี่ยวข้องกับคดี มาให้ข้อมูลความคืบหน้าของคดี
ต่อมาเวลา 09.00 น. คณะของรอง ผบ.ตร.เดินทางไปดูจุดเกิดเหตุที่พื้นที่บ้านใหม่มหาวัน ม.12 ต.ดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง ก่อนที่จะเดินทางไปที่ สภ.เวียงเชียงรุ้ง ในเวลา 09.30 น. เพื่อร่วมสอบปากคำพยานในคดีเพิ่มเติมอีก 2 ราย ที่ห้องประชุมชั้น 2 ภายใน สภ.เวียงเชียงรุ้ง ซึ่งใช้เวลาในการสอบสวนนานนับชั่วโมงกว่าจะเสร็จสิ้น
...
รอง ผบ.ตร.กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีว่า ตอนนี้กระบวนการสืบสวนสอบสวนได้ดำเนินการคืบหน้าไปมากแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว ตอนนี้เท่าที่ทราบ คือ ผู้ต้องหาได้หลบหนีออกจากพื้นที่ ไม่ได้อยู่ในหมู่บ้าน และไม่แน่ชัดว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุ หรือคนที่พาหลบหนีหรือไม่ ตนยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ในตอนนี้ เพราะจะกระทบกับการสืบสวนสอบสวน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของน้องบ๊อบบี้ คือ "ตับแตก" จากการถูกของแข็งทุบตี แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นท่อนไม้ที่ตกอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ หรือเป็นอาวุธชนิดอื่น ต้องรอความแน่ชัดจากการตรวจพิสูจน์ก่อน
พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้รอผลการตรวจชันสูตรศพโดยละเอียดจากโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และผลการตรวจหลักฐานจากกองพิสูจน์หลักฐานภาค 5 ที่จังหวัดลำปาง ที่ยังไม่ออกมา แต่ยืนยันว่าตำรวจมีหลักฐานที่สามารถเอาผิดกับผู้กระทำความผิดได้ โดยจะเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาในเร็วๆ นี้ คาดคดีน้องบ๊อบบี้จะไม่ยืดเยื้อเหมือนกรณีคดีน้องชมพู่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รับผิดชอบคดีก็ได้เร่งทำงานจนสุดความสามารถ แต่ยังไม่สามารถระบุเวลาที่แน่ชัดได้.