
หนุ่มฉุนลดค่าแรง คว้ามีดดวลมือเปล่า สุดท้ายน่วมดับ คาดพิษหมัดนายจ้าง
ลูกจ้างหนุ่ม ซดเหล้าเมาได้ที่ ฉุนนายจ้างลดค่าแรงช่วงโควิดฯ ง้างอีโต้ฟันหัว แต่ถูกสวนด้วยหมัด รัวหน้าไม่ยั้ง หมอบคว่ำล้มฟุบ ก่อนนายจ้างพาขึ้นโรงพัก หวังแจ้งความจับ แต่ดันตายคารถกระบะ จนท.คาดเมา-โดนต่อยปลายคาง เป็นเหตุเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 16 ม.ค.64 ร.ต.อ.วีระพันธ์ ชื่นชม รอง สว.(สอบสวน) สภ.โคกสลุง รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายกันที่โรงไก่ร้าง หมู่ที่ 8 ต.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ก่อนทราบว่าคู่กรณีทั้ง 2 ได้เดินทางไปที่ สภ.พัฒนานิคม เพื่อแจ้งความ จึงเดินทางไปตรวจสอบ
ข่าวแนะนำ
เมื่อเดินทางมาถึง สภ.พัฒนานิคม พบศพ นายอำพล ครรักษา อายุ 34 ปี เป็นชาว อ.เมืองพล จ.ขอนแก่น เสียชีวิตอยู่ท้ายรถกระบะ สีขาว หมายเลขทะเบียน 2ฒณ-2889 กรุงเทพมหานคร ซึ่งสภาพใบหน้าบวมปูด มีบาดแผลและมีเลือดไหลซึมที่เบ้าตาซ้าย จึงรายงานให้ พ.ต.อ.กริช แสงพล ผกก.สภ.พัฒนานิคม ทราบ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.พัฒนานิคม นคร 88 และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ เบื้องต้นไม่พบบาดแผลตามลำตัว คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง
จากการสอบถาม นายประจวบ บุญทอง อายุ 50 ปี ผู้ก่อเหตุและเป็นเจ้าของรถกระบะคันดังกล่าว ให้การว่า ตนทำงานรับเหมาซื้อของเก่า ผู้ตายเป็นลูกน้อง ทำงานร่วมกันมาประมาณ 4-5 วัน ผู้ตายได้ค่าจ้างวันละ 600 บาท ซึ่งวันนี้หลังเลิกงานเห็นว่าทำงานกันมาอย่างเหน็ดเหนื่อย จึงอยากจะเลี้ยงสุรา อาหาร ซึ่งผู้ตายอยากจะกินตับย่างหมูปิ้ง ตนก็ตามใจ โดยซื้อเหล้าขาวที่ชอบมาให้ผู้ตาย แต่ตนดื่มเหล้าแดง ผ่านไปจนได้ที่ ผู้ตายถามว่าทำไมถึงลดค่าแรงจากวันละ 600 เหลือ 500 บาท ตนก็บอกว่าช่วงโควิดฯ ไม่สามารถส่งของเก่าเข้าโรงงานได้ ขอให้ช่วยกันไปก่อน หากสถานการณ์ปกติก็จะให้ค่าแรงเช่นเดิม ทำให้ผู้ตายไม่พอใจด่าคำหยาบคาย ก่อนเดินไปหยิบไม้มาตีตน ตนเห็นว่าผู้ตายเมาแล้วจึงตักเตือนไป พร้อมกับไล่ให้ไปนอนพักผ่อน ซึ่งผู้ตายก็ยังเซ้าซี้จะเอาเรื่องให้ได้ และตะโกนมาว่า "วันนี้ถ้าไม่มีใครตายกูก็จะไม่นอน" สักครู่ผู้ตายถือมีดอีโต้มาจะฟันหัวตน จึงใช้มือซ้ายรับมีดจนเป็นแผลฉกรรจ์ ตนเห็นท่าไม่ดีจึงตอบโต้กลับโดยการชกต่อยไปที่ใบหน้าผู้ตายหลายครั้ง จนผู้ตายหมอบไปที่พื้น หลังจากนั้นตนจึงทำแผลที่ข้อมือซ้าย และนำตัวผู้ตายมาโรงพัก พร้อมมีดอีโต้ที่ใช้ฟันตน เพื่อแจ้งความผู้ตายทำร้ายร่างกาย แต่พบว่าเมื่อมาถึงโรงพัก ผู้ตายกลับเสียชีวิตแล้ว
ทั้งนี้จากการชันสูตรคาดว่า นายอำพล คงจะโดนต่อยด้วยหมัดที่ใบหน้าและปลายคางอย่างรุนแรง เนื่องจาก นายประจวบ ร่างกายใหญ่โต ประกอบกับความเมาจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต เบื้องต้นร้อยเวรเจ้าของคดีได้สอบปากคำผู้ก่อเหตุ และพยานที่เห็นเหตุการณ์แล้ว และนำร่างผู้ตายส่งชันสูตร ที่ รพ.อีกครั้ง ก่อนควบคุม นายประจวบ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.พัฒนานิคม เพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป