ตร.ตรัง ยิงถล่มเก๋งชาวบ้านคาสี่แยก กระสุนโดนขาสาวเสมียนแพเจ็บ คุมตัวสามีและน้องสาวไปสอบ พบยิงผิดตัวเข้าใจว่าเป็นคนร้ายหนีจาก จ.กระบี่ แต่ตัวจริงยังลอยนวล ญาติลั่นไม่ยอมจะเอาเรื่องถึงที่สุด
กรณียิงกันกลางสี่แยกอันดามัน ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 4 ม.ค.64 กำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง หลังรับการประสานมาจาก สภ.ทรายขาว จ.กระบี่ ได้ตั้งจุดสกัดบริเวณสี่แยกอันดามัน ปรากฏว่าระหว่างที่ตั้งจุดตรวจสกัดอยู่นั้น ได้พบรถยนต์ต้องสงสัยตามที่ได้รับแจ้งวิทยุประสาน เป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นอัลเมร่า สีขาว ทะเบียน กธ 7693 กระบี่ ขับมา ตำรวจคาดว่าน่าจะเป็นรถต้องสงสัยคันเดียวกับที่ก่อเหตุ จึงได้ใช้อาวุธปืนทั้งปืนสั้นยาว กระหน่ำยิงใส่ และเข้าตรวจสอบรถอย่างทันที โดยรถมีร่องรอยคมกระสุนเจาะเข้าจำนวนหลายจุดทั้งคัน ยางล้อหลังทั้ง 2 เส้นแตก
ตรวจสอบภายในรถพบว่าโดยสารกันมา จำนวน 3 คน โดยมี นายสุทธิราช หมาดแดหว่า อายุ 38 ปี อาชีพขับรถส่งของ ชาวบ้าน ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เป็นคนขับรถ และคนนั่งข้าง คือ น.ส.หนึ่งฤทัย วงศ์ประเสริฐ อายุ 29 ปี อาชีพเสมียนแพปลาแห่งหนึ่ง ใน จ.กระบี่ เป็นภรรยา ถูกยิงกระสุนทะลุรถบริเวณประตูเจาะเข้าต้นขาซ้าย ได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนนั่งหลัง คือ น.ส.สุดารัตน์ หมาดแดหว่า อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวของนายสุทธิราช ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำร่างผู้บาดเจ็บคือ น.ส.หนึ่งฤทัย ส่ง รพ.ห้วยยอด และควบคุมตัวนายสุทธิราช และ น.ส.สุดารัตน์ ไว้ก่อนแจ้งประสานไปยัง พ.ต.อ.ประดิษฐ ชัยพล ผกก.สภ.ห้วยยอด พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รอง ผกก.(สอบสวน) และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.ตรัง เข้าตรวจสอบ
...
เบื้องต้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด ส่วนนายสุทธิราช และ น.ส.สุดารัตน์ ที่ได้ถูกคุมตัวไว้นั้นอยู่ในอาการตื่นตกใจและขวัญผวาเป็นอย่างมาก พร้อมยืนกรานตลอดเวลาว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายใดๆ ก่อนนำตัวทั้งคู่มาเค้นสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.ห้วยยอด โดยแยกกันสอบ ท่ามกลางบรรดาญาติพี่น้องของผู้เสียหายต่างรีบเดินทางมาที่สถานีตำรวจ ต่างยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงผิดตัว โดยในขณะนี้ยังคงไม่ทราบตัวผู้ก่อเหตุที่แท้จริงว่าหลบหนีไปกบดานที่ไหน
จากการสอบปากคำ นายสุทธิราช ให้การว่า ตนเองขับรถออกจากบ้านในพื้นที่ ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เพื่อเดินทางมายังสถานีรถไฟตรัง เพื่อที่จะเดินทางไปอบรมที่ จ.สุราษฎร์ธานี ในวันพรุ่งนี้ โดยมาพร้อมภรรยาและน้องสาวตนเอง เพื่อจะได้ขับรถกลับ แต่ตอนเกิดเหตุตนเองเห็นตำรวจยืนอยู่บริเวณสี่แยกอันดามัน ในใจคิดว่าน่าจะเกิดอุบัติเหตุ จึงได้ขับเปลี่ยนเลนและชะลอรถ แต่ทันใดนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระหน่ำกราดยิงเข้ามาจนตนเองต้องหยุดรถ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุธครบมือจึงวิ่งกรูเข้ามาควบคุมตัวทันที โดยที่ตนเองไม่ได้พูดอะไรแม้แต่น้อย และยืนยันว่าไม่ใช่คนร้าย
ด้าน นายห้าสัน หมาดแดหว่า อายุ 58 ปี ชาวบ้าน ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พ่อนายสุทธิราช กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุตนไม่ได้รู้รายละเอียดมากนัก เพราะอยู่ที่บ้านแต่ลูกชายอยู่บนถนน เท่าที่ฟังทราบว่าลูกชายกำลังเดินทางไปที่สถานีรถไฟตรัง เพื่อที่จะไป จ.สุราษฎร์ธานี ไปกัน 3 คน มีลูกสะใภ้ ลูกชาย และน้องสาวอีกคน เพื่อนั่งเป็นเพื่อนกันขากลับ ก็เริ่มเดินทางวันนี้เพราะพรุ่งนี้มีประชุม แต่ระหว่างทางตำรวจเกิดเข้าใจผิดคิดว่าลูกชายเป็นคนร้าย ได้ใช้อาวุธปืนยิงล้อรถทั้งสองข้าง ถูกลูกสะใภ้อีก
พ่อของนายสุทธิราช กล่าวอีกว่า ลูกชายเป็นคนที่ไม่ข้องเกี่ยวกับยาเสพติด ของมึนเมา แม้กระทั่งบุหรี่ก็ยังไม่สูบ จนรู้สึกเสียใจ น้อยใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำไมก่อนที่ตำรวจจะทำงานไม่ตรวจดูให้ดีก่อน เพราะทะเบียนรถก็ไม่เหมือนกัน รถของลูกชายเป็นป้ายจังหวัดกระบี่ แต่ของคนร้ายเป็นป้ายทะเบียนจังหวัดเพชรบุรี แต่บังเอิญว่ารถสี และยี่ห้อ เหมือนกัน หลังจากนี้ก็จะขอคุยกับญาติก่อน แต่ยืนยันว่าจะมีการดำเนินคดี ไม่ให้เรื่องเงียบ เพราะตำรวจทำเกินกว่าเหตุ อีกทั้งลูกสะใภ้ต้องมาบาดเจ็บและหยุดทำงาน อีกทั้งทรัพย์สินเสียหาย และรู้สึกจิตตกกันทั้งสิ้น โดยที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้น และหวั่นว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรม
...
เหตุการณ์ตั้งจุดสกัดครั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณีเกิดเหตุคนร้าย เป็นสามี-ภรรยา ทะเลาะวิวาท โดยสามีกักขังภรรยาไว้ในบ้าน ทางหลังวัดคลองพน พื้นที่หมู่ 6 บ้านพรุใหญ่ ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทรายขาว จึงได้เข้าตรวจสอบ ทำให้คนร้ายซึ่งเป็นสามีใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ ร.ต.ท.ทรงฤทธิ์ หนูสาย เจ็บหนักส่ง รพ.กระบี่ และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ถูกยิงได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน รวมบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดตอนเที่ยงของวันเดียวกัน ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุได้ขับรถหลบหนีออกจากพื้นที่ จ.กระบี่ และหลบหนีเข้ามาในพื้นที่ จ.ตรัง ด้วยรถยนต์เก๋ง สีขาว ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน หมวด จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยอาวุธปืนสั้นและปืนยาวมาในรถด้วย
ขณะที่บรรยากาศภายใน สภ.ห้วยยอด เป็นไปด้วยความตึงเครียด เพราะทางญาติไม่พอใจอย่างมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ กับผู้สื่อข่าว อ้างอยู่ในระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงผู้เสียหายทั้ง 2 ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บคือ น.ส.หนึ่งฤทัย ภรรยานายสุทธิราช อาการปลอดภัยแล้ว และอยู่ในระหว่างการไล่ล่าตัวผู้ต้องหาก่อเหตุตัวจริง ล่าสุดทราบว่าทางญาติผู้ต้องหารายนี้ได้ติดต่อประสานเข้ามาเพื่อเข้ามอบตัวกับ ตร.สภ.ทรายขาว แล้ว ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.
...