
ตร.เผยคนร้ายปาไปป์บอมบ์ใส่การ์ดวีโว่ริม ถ.ราชดำเนิน เร่งดูวงจรปิดล่าตัว
อีโอดี พร้อมพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ตรวจจุดที่คนร้ายปาระเบิดใส่การ์ดวีโว่ที่ขายกุ้งริม ถ.ราชดำเนิน พบเป็นไปป์บอมบ์ คนร้ายขี่ จยย.มา 2 คน ตร.เร่งรวมหลักฐานดูวงจรปิด ยังไม่รู้ว่าเป็นกลุ่มใด
จากกรณีเมื่อกลางดึกวันที่ 31 ธ.ค.2563 ที่ผ่านมา เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดขึ้นบริเวณพื้นที่ลานจอดรถ สน.ชนะสงคราม ริมถนนราชดำเนินกลาง เขตพระนคร หรือ กองสลากเก่า ซึ่งเป็นจุดที่กลุ่มการ์ดวีโว่มาจัดกิจกรรมจำหน่ายกุ้ง จากเกษตรกร จังหวัดนครปฐม และมีการตั้งเวทีปราศรัยและเล่นดนตรี ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากสะเก็ดระเบิด 4 ราย เป็นตำรวจสืบสวน สน.สำราญราษฎร์ ผู้หญิงที่ขี่รถจักรยานยนต์ มาพร้อมเด็กชายอายุ 7 ขวบ และเด็กหญิงอายุ 15 ขวบ ซึ่งได้นำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงแล้ว
ข่าวแนะนำ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและหน่วยเก็บกู้วัตถุ หรืออีโอดี พร้อมพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ได้กั้นพื้นที่ และเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งพบว่าเกิดระเบิดที่บริเวณรถกระบะเชฟโรเลต สีน้ำเงิน ทะเบียน 3 ฒก 5369 กรุงเทพมหานคร ที่บริเวณฝั่งซ้ายของรถบุบได้รับความเสียหาย และฝาครอบดุมล้อหน้าซ้ายหลุด
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 1 ม.ค.2564 พันตำรวจเอกกำธร อุ่ยเจริญ รองผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กล่าวว่า ระเบิดที่พบในที่เกิดเหตุเป็นระเบิดชนิดแรงดันต่ำ หรือ ไปป์บอมบ์ ซึ่งคนร้ายได้ใช้ดินระเบิดแรงดันต่ำ และเศษตะปูต่างๆ ใส่ลงในท่อสีฟ้า ก่อนโยนใส่รถที่เกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเก็บพยานหลักฐานต่างๆ ไปตรวจสอบเพิ่มเติม

ด้านพ่อค้าและการ์ดวีโว่ที่อยู่ในเหตุการณ์ระบุว่า คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน 2 คน ก่อนที่จะขว้างระเบิดมาบริเวณรถกระบะที่เกิดเหตุ แล้วก็เกิดการระเบิดขึ้น และเมื่อไปดูกล้องวงจรปิดคาดว่า คนร้ายเป็นบุคคลที่ทำทีมาขอซื้อกุ้งเมื่อช่วงเย็นก่อนเกิดเหตุระเบิด ซึ่งตนเองยังคุ้นหน้าว่าเคยเป็นกลุ่มนักเรียนอาชีวะ ส่วนรายละเอียดไม่ขอเปิดเผย
ขณะที่ พลตำรวจโทภัคพงษ์ พงศ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และตรวจสอบรายละเอียด แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเหตุจูงใจมาจากสาเหตุใด เป็นกลุ่มมือที่สามมาสร้างสถานการณ์หรือไม่

ส่วนเจ้าของรถคันที่เกิดเหตุ ระบุว่าระหว่างที่มาแวะรอซื้อกุ้ง และได้นั่งฟังดนตรี และได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด จึงวิ่งออกมาดู ก็พบรถได้รับความเสียหาย โดยยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีเรื่องบาดหมางหรือทะเลาะกับบุคคลอื่นแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุก็ไม่ได้อยากจะไปโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และให้เป็นเรื่องการสอบสวนของเจ้าหน้าที่.