ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ คุมตัว "น้ำเพชร" อดีตนักมวยไทยที่ก่อเหตุฉุดหญิงสาว 3 รายในวันเดียว เพราะเสพยาบ้า ไปศาล จ.กาฬสินธุ์ เพื่อขออำนาจฝากขัง และยื่นคัดค้านประกันตัว เกรงหลบหนี หรือก่อเหตุซ้ำ

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 63 จากรณีตำรวจตามจับกุมตัว นายน้ำเพชร ภูรัตน์ อายุ 33 ปี ชาว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นอดีตนักมวยไทย หลังก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนฉุดหญิงสาววันเดียว 3 ราย ภายในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ก่อนจะทำร้ายเหยื่อ โดยตบและเตะจนได้รับบาดเจ็บ แล้วอุ้มขึ้นรถจักรยานยนต์ไปจนมีพลเมืองดีเข้าช่วยจึงรอดหวุดหวิด พร้อมกับนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ล่าสุดวันนี้ 16 ธันวาคม 2563 เวลา 09.30 น. พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.ชูชาติ อุทธิสินธ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ นำตัว นายน้ำเพชร ภูรัตน์ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหา ออกจากห้องขังโรงพัก เพื่อเซ็นชื่อในเอกสารรับสารภาพ ก่อนจะนำตัวไปขอฝากขังที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินคดีทั้ง 3 คดี รวม 5 ข้อหา ประกอบด้วย 1.กระทำอนาจาร 2.พยายามพรากผู้เยาว์ 3.ทำร้ายร่างกาย 4.วิ่งราวทรัพย์ และเสพยาเสพติด โดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ มีการก่อเหตุที่อุกอาจและต่อเนื่อง อีกทั้งเกรงว่าหากออกมาแล้วจะไปก่อเหตุซ้ำ หรือไปยุ่งกับพยานและมีพฤติกรรมหลบหนี

พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวพนักงานสอบสวนแยกเป็น 3 คดี เนื่องจากเป็นการก่อเหตุต่างกรรม ต่างวาระ โดยคดีแรกเป็นนักเรียนหญิงอายุ 15 ปี มี ร.ต.ท.สุประจักษ์ มิตรรัตน์ เป็นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี โดยคดีที่ 2 เป็นหญิงอายุ 30 ปี มี ร.ต.อ.รัชนาถ แก้วกาหลง เป็นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และคดีที่ 3 เป็นหญิงวัย 30 ปี มี พ.ต.ท.ชูชาติ อุทธิสินธ์ เป็นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ทั้งนี้จากการสอบปากคำผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา

...

โดยก่อนก่อเหตุได้รับสารภาพว่าเสพยาบ้าเข้าไปประมาณ 5 เม็ด และดื่มเบียร์ด้วย และจากการสอบสวน ประกอบกับการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะพฤติกรรมของผู้ต้องหามีการวางแผนเข้ามาก่อเหตุ เลือกเหยื่อเป็นผู้หญิงทั้ง 3 คน คาดว่าน่าจะพยายามฉุดผู้หญิงทั้ง 3 รายไปทำอนาจารหรือกระทำชำเรา หรืออาจจะทำการขืนใจ แต่ไม่สำเร็จ


พ.ต.ท.สุเทพ กล่าวอีกว่า วันนี้พนักงานสอบสวนจะนำตัวนายน้ำเพชรไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยแจ้ง 5 ข้อหา ประกอบด้วย 1.กระทำอนาจาร 2.พยายามพรากผู้เยาว์ 3.ทำร้ายร่างกาย 4.วิ่งราวทรัพย์ และเสพยาเสพติด โดยพนักงานสอบสวนจะได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ มีการก่อเหตุที่อุกอาจและต่อเนื่อง อีกทั้งเกรงว่าหากประกันตัวออกมาแล้วไปก่อเหตุซ้ำ หรือไปยุ่งกับพยานและมีพฤติกรรมหลบหนี.