ศาลพิพากษาประหารชีวิต "บรรยิน" พร้อมพวก อุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา ให้การเป็นประโยชน์ลด 1 ใน 3 เหลือคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 2 ลดเหลือ 33 ปี 4 เดือน
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 15 ธ.ค.63 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและพฤติมิชอบกลาง ถนนนครไชยศรี เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ จำเลยในคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาอาวุโส ศาลอาญากรุงเทพใต้ จากเรือนจำบางขวางมายังศาล เพื่อฟังคำพิพากษาในคดี อดีต พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ พรรคเพื่อไทยหลายสมัย กับพวก รวม 6 คน จำเลยคดีก่อเหตุอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งเป็นผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนโอนหุ้น นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือ “เสี่ยจืด” นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน ศาลอาญาคดีทุจริตและพฤติมิชอบกลางได้ไต่สวนพยานทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยแล้วเสร็จ จึงได้นัดฟังคำพิพากษาคดีในวันนี้
เมื่อถึงเวลาศาลได้อ่านคำพิพากษาอย่างละเอียดตามพฤติการณ์กระทำความผิดของผู้ต้องหาแต่ละคน ใช้เวลาอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง อ่านคำพิพากษาตามที่โจทก์ยื่นฟ้องขอให้ลงโทษทุกกระทงความผิด และขอให้รวมคดีที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ โดยส่วนใหญ่ศาลพิเคราะห์พฤติการณ์พันตำรวจโทบรรยินเข้าข่ายกระทำความผิดเกือบทุกข้อหา เช่น กักขังหน่วงเหนี่ยว, ฆ่าโดยไตร่ตรอง, ซ่อนเร้นทำลายศพ, แต่งกายและแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ ส่วนที่พิเคราะห์แล้วไม่เข้าองค์ประกอบความผิด มีข้อเดียวคือ ซ่องโจร เนื่องจากขาดองค์ประกอบบางประการ เช่น การนั่งประชุมวางแผนร่วมกัน ส่วนจำเลยคนอื่นๆ ศาลพิเคราะห์แยกไปตามองค์ประกอบความผิด เช่น จำเลยที่ 2 ทำหน้าที่ขับรถ, จำเลยที่ 3 ร่วมกันฆ่า ซ่อนเร้นทำลายศพ, จำเลยที่ 4 กับ 5 หน่วงเหนี่ยวกักขัง และจำเลยที่ 6 ฐานให้การสนับสนุน แต่สุดท้ายเมื่อพิเคราะห์อย่างละเอียดแล้วก็พิพากษาตามบทลงโทษหนักสุดในแต่ละข้อหาที่มีหลักฐานกระทำความผิดชัดเจน
...
โดย พ.ต.ท.บรรยิน และนายณรงค์ศักดิ์ จำเลยที่ 1 และ 3 มีความผิดฐานร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นเหตุให้ผู้อื่นจนถึงแก่ความตายฯ ลงโทษประหารชีวิต, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ ลงโทษประหารชีวิต, ฐานแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานฯ จำคุก 1 ปี, สวมเครื่องแบบเจ้าพนักงานฯ จำคุก 1 ปี, ซ่อนเร้นทำลายศพฯ จำคุก 4 ปี แต่ให้การเป็นประโยชน์จึงลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุกตลอดชีวิตสถานเดียว ส่วนจำเลยที่ 2 มีความผิดฐานสนับสนุนให้กระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษเหลือจำคุก 33 ปี 4 เดือน จำเลยที่ 4-6 มีความผิดฐานร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายฯ ร่วมกันเรียกค่าไถ่ ลงโทษประหารชีวิต แต่ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ทั้งนี้เฉพาะพันตำรวจโทบรรยิน ศาลให้นับโทษต่อจากคดีโอนหุ้นจำคุก 8 ปี ของศาลอาญากรุงเทพใต้ด้วย.