หนุ่ม 22 นั่งดื่มเหล้าวงเดียวกับ "แม่-พ่อเลี้ยง" ทะเลาะกันเสียงดัง คว้ามีดปลายแหลมเสียบชายโครงพ่อเลี้ยง ดับดิ้นคาบ้านพัก ก่อนควบ จยย.หลบหนี  

เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 15 ธ.ค.63 ร.ต.อ.มะโน อ่อนสุรทุม รอง สว.(สอบสวน) สภ.วังตะเคียน รับแจ้งเหตุแทงกัน มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 110 ม.10 บ้านโนนแดง ต.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ฤทธิชัย ทองเลิศ รอง.ผกก. (ป) รักษาการ ผกก.สภ.วังตะเคียน และชุดสืบสวน แพทย์เวร รพ.กบินทร์บุรี และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจพุทธธรรมกบินทร์บุรี 

ที่เกิดเหตุอยู่ภายในบ้าน พบศพผู้เสียชีวิตนอนอยู่บนเตียงหน้าบ้าน สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด ทราบชื่อคือ นายวิลัย กองชุน อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/1 ม.10 บ้านโนนแดง ต.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ตรวจสอบตามลำตัวพบบาดแผลถูกแทงด้วยมีดปลายแหลม เข้าที่ชายโครงใต้ราวนมซ้าย นอกจากนี้ยังพบปลอกมีดตกอยู่ที่เกิดเหตุ ยาวประมาณ 1 ฟุต เจ้าหน้าตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายนฤทธิ์ ชื่นบาน อายุ 22 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกเลี้ยงผู้ตาย ภายหลังก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ขณะเกิดเหตุ น.ส.ภมรรัตน์ กองชุน อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวแท้ๆผู้ตาย มาเห็นเหตุการณ์พอดีตอนที่พ่อถูก นายนฤทธิ์ แทงต่อหน้าต่อตา ก่อนที่จะโทรแจ้งรถกู้ภัยมารับพ่อส่ง รพ. แต่พ่ออาการสาหัสจนสิ้นใจ สร้างความเสียใจเป็นอย่างมาก พร้อมเล่าว่า ตนเตือนพ่อแล้วว่า อย่าออกไป ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 6 โมงเย็น พ่อ พร้อม นางเดือน ชัชวาล อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นภรรยาใหม่ และ นายนฤทธิ์ ซึ่งเป็นลูกติดของ นางเดือน ได้นั่งดื่มสุรากันตรงที่เกิดเหตุ และได้มีปากเสียงกันมาแล้วครั้งหนึ่ง จากนั้นพ่อก็กลับบ้าน ต่อมาพ่อได้กลับมาที่เกิดเหตุอีก ตนได้เตือนพ่อว่าอย่าออกไปแต่พ่อไม่ฟัง จนกระทั่งได้ยินเสียงทะเลาะกันอีกครั้งเสียงดังมาก ตนจึงออกจากบ้านจะมาเตือนพ่อว่าดึกแล้วชาวบ้านรำคาญ พอตนเดินมาถึงก็เห็น นายนฤทธิ์ ใช้มีดแทงพ่อ แต่ไม่รู้ว่ากี่ที เห็นแต่มีเลือดออกปากจำนวนมาก หลังจากที่ นายนฤทธิ์ แทงพ่อแล้ว ก็ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนสาเหตุที่ทะเลาะกันนั้น ไม่ทราบเกิดจากสาเหตุใด 

...

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มอบร่างผู้ตายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย นำส่งชันสูตร ที่ รพ.กบินทร์บุรี โดยจะทำการสอบสวนพยานและผู้เห็นเหตุการณ์ เพื่อรวมรวมหลักฐาน และติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป