ตร.โรงพักหนองหาน ตามจับได้แล้ว 5 โจ๋ซ่าบ้านหนองเม็ก รุมทำร้ายน้องโชกุน นักกีฬาดีเด่นประจำหมู่บ้าน จนเสียชีวิต สารภาพก่อเหตุเพราะมีเรื่องบาดหมางใจกันมาก่อน ตร.รีบนำตัวไปทำแผน และขอขมาศพผู้ตาย พ่อแม่อโหสิกรรมให้ แจ้งข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นถึงแก่ความตาย”
กรณีนายปัญญากร พินิจมนตรี อายุ 16 ปี หรือ “น้องโชกุน” นักกีฬาดีเด่นประจำหมู่บ้าน ถูกกลุ่มวัยรุ่นต่างหมู่บ้านกว่า 10 คน รุมสกรัมทำร้ายร่างกายบนถนนทางเข้าหมู่บ้านสามแยกวัดวิสิทธิคุณสามัคคี บ้านหนองตะไก้ หมู่ 4 ต.หนองเม็ก จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม หลังเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เป็นเวลา 5 วัน ทีมแพทย์ดำเนินการรักษาอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ เนื่องจากถูกตีด้วยของแข็งบริเวณศีรษะจนบวม
โดยนายสัญญา พินิจมนตรี อายุ 38 ปี และนางภัชนันท์ พินิจมนตรี อายุ 38 ปี พ่อและแม่ของน้องโชกุน อยากให้ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้ เพราะเสียใจที่ต้องสูญเสียลูกไปก่อนวัยอันควร และเพิ่งกลับมาอยู่บ้านกับลูกชายได้เพียง 2 ปี อยากมีครอบครัวอบอุ่นอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.หนองหาน พร้อมชุดสืบสวน สภ.หนองหาน ได้ร่วมกันจับกุมวัยรุ่นบ้านหนองเม็กได้แล้วจำนวน 5 คน โดยทั้งหมดเป็นเยาวชนอายุ 15-17 ปี ชาวบ้านหนองเม็ก ต.หนองเม็ก อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ส่วนสาเหตุที่วัยรุ่นบ้านหนองเม็กรุมทำร้ายน้องโชกุน นั้น ทั้งหมดอ้างว่าเคยมีเรื่องเขม่นกับวัยรุ่นระหว่างหมู่บ้านมาก่อน และหัวโจกยังมีเรื่องบาดหมางใจกับน้องโชกุนมาอีกด้วย
...
โดยในคืนวันเกิดเหตุได้พากันไปเที่ยวงานบุญแจกข้าวที่บ้านโสกหมู และทราบว่านายเปเล่ และนายปัญญากร หรือน้องโชกุน เป็นวัยรุ่นบ้านหนองตะไก้ หลังเที่ยวงานบุญเสร็จ จึงขับรถไปสกัดดักรอเพื่อทำร้ายทางเข้าบ้านหนองตะไก้ แต่นายเปเล่และนายปัญญากรได้ขับอ้อมไปอีกเส้นทางหนึ่ง จึงขับรถไปดักรอทางเข้าหมู่บ้านก่อนลงมือทำร้ายนายปัญญากรจนเสียชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้นเยาวชนทั้ง 5 คนให้การรับสารภาพว่า ได้รุมทำร้ายนายปัญญากร จริง แต่ไม่คิดว่าจะเสียชีวิต โดยมีนายบอล หัวโจกเป็นคนเริ่มลงมือ ใช้ไม้ยูคาลิปตัสตีเข้าไปบริเวณศีรษะนายโชกุน ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ ก็รุมทำร้ายด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมดตำรวจได้รีบนำตัวเยาวชนทั้ง 5 คนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตรงจุดเกิดเหตุ และพาไปขอขมาศพ โดยทั้งหมดยกมือขอโทษพ่อและแม่ และอยากให้ผู้ตายอย่าได้จองเวรจองกรรมกัน
ส่วนพ่อและแม่น้องโชกุนได้อโหสิกรรมให้ พร้อมบอกว่า กรรมใดใครก่อก็ให้รับกรรมไป ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นถึงแก่ความตาย” นำตัวส่งสถานพินิจและศาลเยาวชนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.