"เสี่ยโป้" นัดสื่อชี้แจงดราม่าเงินบริจาค 2 ล้านบาท ซื้อเสื้อชมพู ยืนยันไม่มีปัญหากับ "บิณฑ์" ไม่เข้าใจ "รองต่อ สันธนะ" จะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ทำไม

จากกรณี นายสันธนะ หรือ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ (ถูกถอดยศเมื่อวันที่ 24 ต.ค.61) อดีตรอง ผกก.ตำรวจสันติบาล ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ให้สืบสวนสอบสวนพฤติกรรมนายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดงชื่อดัง กรณีเรียกรับเงินบริจาค 2 ล้านบาท จากนายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือเสี่ยโป้ อายุ 28 ปี เป็นค่าเสื้อสีชมพูที่จะซื้อแจกให้ประชาชนสวมใส่ในวันพ่อแห่งชาติที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 10 ธ.ค.2563 นายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือเสี่ยโป้ อายุ 28 ปี ได้นัดหมายสื่อมวลชนเพื่อแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่บ้านพักเลขที่ 23 หมู่ 5 ถนนเพชรเกษม ซอย 44 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. โดยเจ้าตัวเล่าว่า ตนมีความประสงค์จะบริจาคเงินซื้อเสื้อสีชมพูกับ นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ จริง เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยบริจาคเงินช่วยน้ำท่วมไปแล้ว 1 ล้านบาท เเละเห็นว่า นายบิณฑ์ ก็มีอุดมการณ์เดียวกันคือทำเพื่อสังคม โดยเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ตนและนายบิณฑ์ นัดหมายกันที่ห้างซีคอนบางแค เพื่อพูดคุยเรื่องเงินบริจาค หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตนเคยบอกไปว่าตนมีงบ 20 ล้านบาท อยากจะมอบให้คนที่ไม่มีค่าเดินทางมาร่วมงานที่ท้องสนามหลวง แต่เห็นว่าการซื้อเสื้อสีชมพูแจกประชาชนก็มีประโยชน์เช่นกัน ตนจึงตอบตกลงจะซื้อเสื้อ 1 แสนตัว ด้วยเงินจำนวน 10 ล้านบาท เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนที่มาร่วมงาน

...

เสี่ยโป้ กล่าวอีกว่า กระทั่งช่วงที่ต้องโอนเงินกันปรากฏว่าตนตกเป็นผู้ต้องหาทางคดี ทำให้ไม่สามารถทำธุรกรรมโอนเงินจากบริษัทของตน จำนวน 8 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ต่างประเทศเข้ามาในเมืองไทยได้ ตนจึงเอ่ยปากขอยืมจากผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือคนหนึ่งนามว่า "ซ้อ" แต่ซ้อบอกว่ามีให้ยืมแค่ 2 ล้านบาท จนเห็นว่าใกล้ถึงวันที่ต้องใช้เสื้อแล้ว จึงให้ลูกน้องประสานบอก นายบิณฑ์ ว่า ขอบริจาคแค่ 2 หมื่นตัวก่อน ในราคา 2 ล้านบาท ซึ่งนายบิณฑ์ก็ไม่ได้ติดขัดอะไร แต่กำชับมาว่าให้โอนก่อนวันที่ 1 ธ.ค. เพราะตกลงกับผู้ใหญ่ไว้แล้วไม่อยากให้ผิดคำพูดกัน ตนก็ให้ลูกน้องประสานไปที่ซ้อให้ช่วยเร่งรัดโอนเงินเข้าบัญชีที่รับบริจาคด้วยเพราะตนก็ไม่อยากผิดคำพูดเช่นเดียวกัน

"ปรากฏว่าซ้อ ได้นำความไปปรึกษา นายสันธนะ ประยูรรัตน์ หลังจากนั้นตนก็คิดว่าผู้ใหญ่คงตั้งข้อสังเกตกันไปเองว่าเงินบริจาคทำไมต้องมีการเร่งรัดให้โอน จนเป็นเหตุให้ นายสันธนะ ไปร้องทุกข์กับ ผบ.ตร. จนถึงขณะนี้ตนก็ขอยืนยันว่า แม้ยอดเงินจะไม่ได้มีการโอนเข้าไปบริจาคซื้อเสื้อ แต่ตนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใคร ไม่ว่าจะเป็นนายบิณฑ์ นายสันธนะ หรือซ้อที่ตนขอยืมเงิน แต่ตนไม่เข้าใจว่า นายสันธนะ จะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ไปทำไมในเมื่อตนก็ยินดีจะทำบุญตั้งแต่แรกอยู่แล้ว" เสี่ยโป้ กล่าวทิ้งท้าย.