“เพนกวิน-รุ้ง” เข้าพบตำรวจ ปอท. รับทราบข้อหา ม.112 ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ลั่นปีหน้าความเคลื่อนไหวจะเข้มข้นกว่าเดิม

กรณีนายนิติพงษ์ ห่อนาค นักแต่งเพลงชื่อดัง เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กองบังคับการกองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ “รุ้ง” แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 ส่วนนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” แกนนำกลุ่มเดียวกัน ก็ถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาเดียวกันด้วย แต่เป็นผู้ร้องทุกข์คนละคน ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวน บก.ปอท. ได้นัดหมายทั้งสองคนมารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้นั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ บก.ปอท. นายพริษฐ์ และ น.ส.ปนัสยา เดินทางมาพร้อมทนายความ โดยเปิดเผยกับสื่อมวลชนก่อนเข้าพบตำรวจว่า ไม่ทราบรายละเอียดที่ถูกแจ้งข้อหา แต่ส่วนตัวแล้วยืนยันจะให้การปฏิเสธ เพราะมองว่าทั้งความผิดตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นกฎหมายที่ลิดรอนสิทธิส่วนบุคคล อีกทั้งตนเองก็เชื่อว่าสิ่งที่ได้โพสต์ไป เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ไม่เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ยอมรับว่าตำรวจยังทยอยส่งหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาอย่างต่อเนื่อง

โดยส่วนของนายพริษฐ์ บอกว่า ถูกดำเนินคดีเฉพาะมาตรา 112 ไปแล้ว 7 คดี หากรวมกับคดีอื่นๆ ถูกฟ้องไปแล้วรวม 29 คดี และเร็วๆ นี้ ต้องไปรับทราบข้อหาที่ สน.สำราญราษฎร์ เรื่องทำทรัพย์สินเสียหาย จากการเคลื่อนย้ายกระถางต้นไม้รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

...

ส่วนความเคลื่อนไหวประเด็นทางการเมือง ในวันพรุ่งนี้ (10 ธ.ค.)ได้นัดทำกิจกรรมที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. เป็นกิจกรรมที่ให้ความรู้เชิงวิชาการที่เกี่ยวกับกฎหมายมาตรา 112 จะไม่เคลื่อนไหวไปทำกิจกรรมในจุดอื่นอีก และได้แจ้งตำรวจเรื่องการทำกิจกรรมดังกล่าวไปแล้ว ส่วนกิจกรรมดังกล่าวจะเป็นครั้งสุดท้ายในปีนี้หรือไม่ ยังตอบไม่ได้ แต่ยอมรับว่าตนกับเพื่อนอีกหลายคนติดสอบ และกว่าจะสอบเสร็จก็น่าจะเข้าช่วงปลายปีซึ่งเป็นวันหยุดยาว

“ที่ตั้งใจไว้ก็อยากให้เพื่อนๆ หยุดพัก แต่หากจะมีกลุ่มไหนจัดกิจกรรมในช่วงดังกล่าว ก็พร้อมให้การสนับสนุน ทั้งนี้ยังยืนยันว่าความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาได้เปลี่ยนแปลงสังคมไทยไปมาก และทางราษฎร ก็ยังยืนยันที่จะใช้ 3 ข้อเรียกร้องเดิม ส่วนในปีหน้าความเคลื่อนไหวจะเข้มข้นขึ้น เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มแสดงความเห็นของตนเองได้อิสระและชัดเจนกว่านี้”