เลขาฯ ป.ป.ส.พาดูเคตามีนหนัก 11.5 ตัน ที่จับได้คาโกดังที่ฉะเชิงเทรา ถูกเก็บรักษาอยู่ที่ ป.ป.ส. ภาค 1 ครบถ้วนโต้ข่าวลือว่าหาย ย้ำเป็นคดีระหว่างประเทศ เร่งขยายผลแต่ยังไม่พบคนมีสีพัวพันแต่อย่างใด
จากกรณี ป.ป.ส.ได้รับข้อมูลจากทางการไต้หวันว่า มีการลักลอบส่งออกเคตามีน 300 กิโลกรัมไปยังไต้หวัน ซึ่งจากการสืบสวนพบโกดังต้นทาง ตั้งอยู่ที่โกดัง ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จึงเข้าตรวจค้นจนกระทั่งพบเคตามีนบรรจุในถุงกระสอบน้ำหนักรวม ประมาณ 11,500 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 28,750 ล้านบาท ซึ่งได้นำกลับมาเก็บเอาไว้ที่ สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 1 นั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.40 น.วันที่ 21 พ.ย.63 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้นำคณะสื่อมวลชนตรวจสอบเคตามีนบรรจุในถุงกระสอบน้ำหนักรวม ประมาณ 11,500 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 28,750 ล้านบาทภายในห้องเก็บของกลาง สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 1 ตั้งอยู่ ม.3 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เพื่อยืนยันว่า ของกลางทั้งหมดยังอยู่ครบไม่ได้หายไปไหน
...

โดยนางกัญญนันทน์ คงภัสนิธิโรจน์ ผอ.สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด ป.ป.ส. ได้มีการสุ่มตรวจสารเสพติด โดยการนำสารจากกระสอบที่มีลักษณะเม็ดสีขาวนำมาตรวจด้วยชุดตรวจน้ำยาเคมีให้สื่อมวลชนได้ดูเบื้องต้น พบว่ามีสีม่วงซึ่งคาดว่ามีสารเสพติด

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า จากการรับรายงานไต้หวันว่ามีการนำเข้าแคลเซียมคาร์บอเนตมาประเทศไทยจำนวน 16 เมตริกตัน และมีการซุกซ่อนเคตามีน 300 กิโลกรัม และอีกอันนำเข้าโซเดียมฟอสเฟตจำนวน 9.95 เมตริกตัน ก็ไปเจอยาเสพติดระดับ 4 เช่นกัน จากการสืบสวนทราบว่า จากการนำเข้ามาจากไต้หวัน และลอตนี้คือลอตเดียวกันร่วมแล้วจำนวน 475 กระสอบ ในจำนวนทั้งหมดนี้มีหก 66 กระสอบ มีการแกะแล้วเราจึงนำเข้าไปตรวจสอบพบมีสีม่วง ลักษณะคล้ายเคตามีน สวนกระสอบที่เหลือทั้งหมดจะนำตรวจสอบพร้อมเชิญสื่อมวลชนร่วมตรวจสอบอีกครั้ง


ในส่วนของการดำเนินคดีนั้น สามารถดำเนินคดีได้อยู่แล้วเนื่องจากตรวจสอบพบว่ามีสารเคตามีนที่เป็นลอตเดียวกับที่จับได้ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยนี่เป็นคดีระหว่างประเทศ ขอยืนยันว่าจะสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ต้องหาให้ถึงที่สุด เบื้องต้นทางเราทราบแล้วว่าผู้ที่ให้เช่า โกดังเก็บของนั้นชื่ออะไร และพบว่าเป็นคนไทยจากการตรวจสอบไม่พบมีประวัติพัวพันเกี่ยวกับยาเสพติด ในสวนที่มีกระแสข่าวออกมาว่ามีคนมีสีเกี่ยวโยงในเรื่องนี้นั้น จะมีการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีกลุ่มบุคคลที่เป็นกระแสมีส่วนพัวพันแต่อย่างใด.
...