เหยื่อแชร์ "ออมกินดอกบ้านครีม" รวมตัวร้องตำรวจ สภ.ชัยบาดาล ล่าสาว 16 "เท้าแชร์" หลอกลงทุนออมเงิน-แชร์ทอง สูญกว่า 10 ล้านบาท ด้านตำรวจเร่งรวบรวมหลักฐาน สอบปากคำเหยื่อ ก่อนแจ้งเท้าแชร์มารับทราบข้อกล่าวหาดำเนินคดี
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 พ.ย.63 ชาวบ้าน อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี และจังหวัดใกล้เคียงประมาณ 60 คน ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เพื่อแจ้งความกรณีถูกหลอกลวง ชักชวนร่วมลงทุนเงินออมผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก โดยมีผู้เสียหายกว่า 100 คน สูญเงินรวมกันกว่า 10 ล้านบาท
โดย น.ส.สุภาวดี ตะกรุดเงิน อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/1 ม.2 ต.เกาะรัง อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เล่าว่า ก่อนเกิเหตุ มีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ลงเพจชื่อ "ออมกินดอกบ้านครีม" โดยมีการลงภาพโปรไฟล์ชื่อนามสกุล น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี พร้อมบัตรประชาชนจริง และบัตรประจำตัวนักศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ตำบลเดียวกัน โดยเพจดังกล่าวได้ชักชวนให้ร่วมลงทุนออมเงินและเล่นแชร์ ซึ่งมีทั้งแชร์ทองคำ และแชร์โทรศัพท์มือถือ ซึ่งแยกออกไปหลายรายการ เช่น ข้อความชวนเชื่อเมื่อลงทุนเงินออมไปวงเงินเท่าไร ก็จะได้ผลตอบแทน 80-100 ภายในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วันตามโปรแต่ละรายการ นอกจากนั้นในส่วนของแชร์ทองคำและมือถือ ผู้ที่ร่วมเล่นจะต้องทยอยส่งเงินให้เท้าแชร์ตามกำหนดจนครบตามข้อตกลง ถึงจะได้รับสินค้า ซึ่งเป็นทองคำและมือถือ
น.ส.สุภาวดี เล่าต่อว่า ระยะแรกตนและอีกหลายๆ ราย ได้ร่วมทดลองลงทุนเงินออมเป็นจำนวนเงินหลักพันและหลักหมื่น ก็จะได้รับเงินปันผลตอบแทน 80-100% ตามข้อตกลงจริงๆ จึงทำให้ข่าวแพร่สะพัดออกไป จนมีผู้ที่หลงเชื่อทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัดจำนวนมาก นำเงินมาร่วมลงทุน ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสนต่อราย ส่วนตนก็ลงเงินไปถึงกว่า 2 แสนบาท หลังจากนั้นเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ปรากฏว่า เจ้าของเพจกลับไม่ได้โอนเงินทุนและเงินปันผลตอบแทนกลับมาให้สมาชิกตามกำหนดที่ตกลงกันไว้ โดยมีการบ่ายเบี่ยงต่างๆ นานา และปิดเพจหนีหายตัวไป ไม่สามารถติดต่อได้ พวกตนที่เป็นสมาชิกในกลุ่มจึงมั่นใจว่าถูกฉ้อโกงอย่างแน่นอน จึงรวมตัวกันเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
...
ด้าน พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก. กล่าวว่า เบื้องต้นหลังจากที่ชาวบ้านจำนวนมาก ได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความร้องทุกข์ในเบื้องต้น จะให้ตัวแทนชาวบ้าน ซึ่งผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์กับผู้ก่อเหตุไว้เป็นหลักฐาน 2 ราย จากนั้นได้แนะนำให้ผู้เสียหายแต่ละราย นำพยานหลักฐานเอกสารต่างๆ ในการโอนเงินลงทุนและถูกฉ้อโกงไป ทยอยมาพบกับพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำ หรือผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่อยู่ต่างจังหวัดก็สามารถเดินทางไปแจ้งความยังสถานีตำรวจใกล้ภูมิลำเนาที่อยู่ เมื่อสอบปากคำผู้เสียหายเรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะแจ้งให้ น.ส.เอ อายุ 16 ปี มารับทราบข้อกล่าวหา ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป