คนร้ายใส่โม่ง สวมแมสก์ปิดหน้า ทำทีเป็นลูกค้า ประกาศลั่น "นี่คือการปล้น" ชักปืนชิงเงินแบงก์ทหารไทย ย่านวัชรพล กวาดกว่า 4 แสนลอยนวล มุ่งหน้าสุขาภิบาล 5 กล้องจับภาพได้ ใจเย็นนั่งนับเงินในวัด ห่างจุดเกิดเหตุเพียง 300 ม.
เมื่อวันที่ 12 พ.ย.63 ร.ต.อ.รหัสชัย ศรีสุมัง รอง สว.(สอบสวน) สน.คันนายาว รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้ปืนพกสั้นบุกเดี่ยว เข้าไปชิงเงินสดภายในธนาคารทหารไทย สาขาตลาดถนอมมิตร วัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผบก.น.2 พ.ต.อ.วาสุเทพ คงกล่อม ผกก.สน.คันนายาว พ.ต.ท.นิรุชพล โยธามาตย์ รอง ผกก.ป.สน.คันนายาว พ.ต.ท.พงษ์สิทธิ์ ปาลาพงษ์ รอง ผกก.สส.สน.คันนายาว เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.)
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ วิชั่น บิสิเนส พาร์ค สูง 8 ชั้น บริเวณชั้นที่ 1 เป็นที่ตั้งธนาคารทหารไทย สาขาตลาดถนอมมิตร วัชรพล เลขที่ 55/8 เจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่ ไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าใกล้จุดเกิดเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการกระจายพื้นที่โดยรอบ ก่อนจะพบกางเกงขายาวสีดำ ถุงมือผ้าสีฟ้า ซองเอกสารสีน้ำตาล ซึ่งคาดว่าจะเป็นชุดที่คนร้ายนำมาทิ้งไว้ในถังขยะ ภายในซอยข้างวัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ด้าน พล.ต.ต.พัฒนา กล่าวว่า แนวทางการสืบสวนกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายเป็นชาย 1 คน สวมเสื้อลายพรางแขนยาว กางเกงขายาวสีดำ ใส่โม่งดำครึ่งหัว สวมแมสก์สีขาว มาดูลาดเลาก่อนช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. จากนั้นเวลา 15.24 น. คนร้ายเข้ามาทำทีเป็นลูกค้า ก่อนประกาศตัวว่า "นี่คือการปล้น เอาเงินมา 2 ล้าน" พร้อมชักอาวุธปืนสั้นสีดำ แบบออโตเมติก บังคับพนักงานธนาคารหน้าเคาน์เตอร์ฝากถอน ให้หยิบเงินสดมาด้วยความกลัว พนักงานได้หยิบเงินส่งให้จำนวนหนึ่ง แต่คนร้ายบอกให้นำเงินใส่ซองด้วย เมื่อได้เงินไปก็รีบเดินออกจากธนาคาร หลบหนีไปเส้นทางถนนวัชรพล มุ่งหน้าถนนสุขาภิบาล 5 ต่อมากล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายกำลังนั่งนับเงิน อยู่ภายในซอยข้างวัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร พร้อมเปลี่ยนชุดทิ้งในถังขยะก่อนหลบหนีไป
...
พล.ต.ต.พัฒนา กล่าวต่อว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคารพบว่า คนร้ายได้เงินไปทั้งสิ้น 416,000 บาท ก่อเหตุขณะใกล้เวลาปิดทำการ เวลา 15.30 น. และมีลูกค้าผู้หญิงเพียง 3 คน ทั้งนี้รูปพรรณสัณฐานคนร้าย ลักษณะท้วมสูง อายุประมาณ 30-35 ปี หลังจากนี้ประสาน พฐก. มาเก็บรอยนิ้วมือแฝง และให้ฝ่ายสืบสวนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป