ตำรวจ สน.สำเหร่ นำหมายจับตามรวบอดีต รปภ.วัย 39 ปี หลังก่อเหตุขืนใจลูกในไส้นาน 2 ปี แล้วหลบหนีไปกบดานบ้านญาติที่สมุทรสาคร ด้านเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ รอสอบปากคำแล้วส่งฝากขัง
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 4 พ.ย. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.น.8 กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำเหร่ จับกุมผู้ต้องหาคดีสำคัญและกำลังเป็นที่สนใจของประชาชน โดย พ.ต.อ.ฉัฐกิตติ์ ผดุงจันทน์ธนัย ผกก.สน.สำเหร่ และ พ.ต.ท.ชโลธร วัฒนะโชติ รอง ผกก.สส.สน.สำเหร่ นำกำลังเข้าจับกุม นายสรณ์ (ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง) อายุ 39 ปี อดีต รปภ.ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 556/2563 ลงวันที่ 4 พ.ย.63 ข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดานตามประมวลกฎหมายมาตรา 277 และ มาตรา 285 สามารถจับกุมได้ระหว่างหลบหนีไปกบดานบ้านญาติในพื้นที่ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงกลางเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา นางอ้อย (นามสมมติ) อายุ 66 ปี ได้พาตัวหลานสาวชื่อ ด.ญ.จุ๋ม (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนชื่อดังย่านสำเหร่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.สำเหร่ ว่า หลานสาวถูก นายสรณ์ พ่อแท้ๆ ทำร้ายร่างกายและกระชำชำเรามานาน 2 ปีแล้ว โดยเหตุเกิดหลายกรรมหลายวาระ ตกสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง แม้หลานสาวจะย้ายหนีมาพักอาศัยกับนางอ้อย ผู้เป็นยาย แต่นายสรณ์ก็ยังไม่หยุดพฤติกรรมดังกล่าว จากนั้นทางพนักงานสอบสวนจึงส่งตัว ด.ญ.จุ๋ม ไปตรวจร่างกายที่ รพ.ตากสิน แพทย์ระบุพบร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศจริง แต่ไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้ายตามร่างกาย จนเป็นที่มาของการออกหมายจับติดตามไปจับกุมตัว นายสรณ์ เอาไว้ได้ที่บ้านญาติในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร
...

จากการสอบสวน นายสรณ์ เบื้องต้นให้การปฏิเสธว่า ไม่เคยขืนใจลูกในไส้ และไม่เคยคิดทำอะไรอย่างที่ถูกกล่าวหา ขณะนี้กำลังติดต่อกับญาติๆ ให้ช่วยหาทนายความมาปรึกษาและเป็นตัวแทนร่วมต่อสู้คดี ในชั้นนี้ชุดจับกุมจึงนำตัว นายสรณ์ เข้าห้องควบคุมผู้ต้องหา สน.สำเหร่ เพื่อรอการสอบปากคำอย่างเป็นทางการก่อนส่งตัวฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรีตามกฎหมายต่อไป.