ไฮโซหนุ่มชื่อดัง ชนแล้วหนี
ผู้การ น.5 ยันเอง ตำรวจยศผู้กองสังกัด บช.ปส. เข้ามอบตัวแล้ว
รอผลตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติด 3 วัน
กรณี ร.ต.อ.อัครวินท์ เตชะอุบล รอง สว.ฝ่ายยุทธศาสตร์ กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) หรือ ไฮโซจิมมี่ ทายาทเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ระดับต้นๆ ของประเทศไทย รวยไม่ต่ำกว่าระดับพันล้าน ซิ่งบีเอ็มป้ายแดงชนพ่อค้าลูกชิ้นเสียชีวิต นำมาสู่กระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีการตั้งคำถามว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ทำผิดกฎหมายเสียเอง “ขับรถชนแล้วหนี” ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 78 ที่บัญญัติไว้ว่า "ผู้ขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินจะต้องหยุดรถให้ความช่วยเหลือ พร้อมทั้งแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ใกล้เคียงทันที ไม่ว่าจะเป็นความผิดของผู้ขับขี่หรือไม่ก็ตาม"
ไฮโซหนุ่มชื่อดัง ชนแล้วหนี
ย้อนกลับไปเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 22 ต.ค. ร.ต.อ.สถาพร โสตยิ้ม รอง สว. (สอบสวน) สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุรถเก๋งเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มีผู้เสียชีวิตบริเวณปากซอยพัฒนาการ 17 แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ ในที่เกิดเหตุพบศพนายอุดม แสงกันยา อายุ 49 ปี อาชีพพ่อค้าขายลูกชิ้น นอนคว่ำหน้า สภาพศีรษะแตก แขนขาหักอยู่ใกล้ตัวพ่วง ส่วนตัวรถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ สีดำ ทะเบียน รกร 986 กรุงเทพมหานคร กระเด็นไปอยู่บริเวณเกาะกลางถนน
...
ห่างออกไป 200 เมตรพบรถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู สีขาว รุ่น M4 ทะเบียนป้ายแดง ต-5555 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่สภาพด้านหน้าพังยับ ถุงลมนิรภัยแตกทุกใบ มีหญิงสาวอายุประมาณ 25 ปี ที่มากับรถเก๋งคันดังกล่าว ยืนอยู่ในสภาพมึนงงและคล้ายเมาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตำรวจจึงนำตัวไปสอบสวนที่ สน.คลองตัน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายอุดม ผู้ตาย ขี่รถมาจากตลาดคลองเตย กำลังจะกลับบ้านในซอยพัฒนาการ 20 แยก 19 เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ ถูกรถเก๋งเฉี่ยวชน ส่วนคนขับรถเก๋ง บีเอ็มดับเบิลยู หลังเกิดเหตุอาศัยจังหวะชุลมุนโทรศัพท์ให้รถตู้ไม่ทราบสี ยี่ห้อและรุ่น มารับตัวออกไป ขณะนั้นตำรวจยังไม่สามารถสอบปากคำหญิงสาวที่นั่งมากับรถคันดังกล่าวได้ เนื่องจากพูดจาวกไปวนมา พนักงานสอบสวนได้ประสานให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ รวมถึงตรวจสอบทะเบียนรถหาเจ้าของรถและคนขับที่แท้จริงเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี
ผู้การ น.5 ยันเอง ตำรวจยศผู้กองสังกัด บช.ปส. เข้ามอบตัวแล้ว
ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกันนั้น พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่าผู้ที่ขับรถชนนายอุดมเสียชีวิต คือ ร.ต.อ.อัครวินท์ และได้ติดต่อเข้ามอบตัวกับตำรวจสน.คลองตันแล้ว ก่อนถูกดำเนินคดี 2 ข้อหา คือ ขับรถประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และมีผู้ถึงแก่ความตาย, ขับรถเฉี่ยวชนแล้วหลบหนี ไม่แจ้งเหตุแก่เจ้าหน้าที่ใกล้เคียง
โดยไฮโซจิมมี่ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมจะเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต ก่อนได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ตีราคาประกัน 1 แสนบาท
รอผลตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติด 3 วัน
มีรายงานด้วยว่า จากการสอบปากคำผู้หญิงที่มากับรถบีเอ็มดับเบิลยูในฐานะพยานให้การว่า เป็นเจ้าของรถบีเอ็มป้ายแดง ก่อนเกิดเหตุมากับเพื่อนสาวชาวพม่าอีก 1 คน มานั่งกินดื่มกันที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านเอกมัย โดยพบชายคนหนึ่งชื่อจิมมี่ ได้พูดคุยกินดื่มกันจนรู้สึกเมา นายจิมมี่อาสาขับรถบีเอ็มคันดังกล่าวไปส่งบ้าน และให้เพื่อนสาวชาวพม่าไปนั่งรถตู้อัลพาร์ดที่มีลูกน้องนายจิมมี่ขับตามมากระทั่งมาเกิดอุบัติเหตุ รถวิ่งต่อไม่ได้ นายจิมมี่ให้ลูกน้องขับรถตู้มารับและให้เพื่อนสาวชาวพม่าลงจากรถ ก่อนหลบหนีไปตั้งหลักและเข้ามอบตัวในที่สุด
...
ขณะที่ พ.ต.อ.ฤทธี ปานดำ ผกก.สน.คลองตัน ท้องที่เกิดเหตุ กล่าวว่า หลังจากที่นำตัว ร.ต.อ.อัครวินท์ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติดในร่างกาย ขณะนี้ยังคงต้องรอผลการตรวจจากแพทย์ คงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบประมาณ 2-3 วัน โดยในวันที่ 26 ต.ค.นี้ ทางพนักงานสอบสวนจะติดตามผลการตรวจอีกครั้ง
ท้ายที่สุดแล้ว กรณีที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่กำลังท้าทายความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อกระบวนการยุติธรรมในหลายประการ ทั้งเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคม ที่ส่งผลต่อความเหลื่อมล้ำในเรื่องความยุติธรรม “คุกมีไว้ขังคนจน” กฎหมายจะไม่มีความหมาย หากการบังคับใช้กฎหมายไม่เสมอภาคและเป็นธรรม...
...