กลุ่มนิสิต-นศ. จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ มายื่นฟ้องศาลแพ่ง ขอให้ไต่สวนเพิกถอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง พร้อมขอคุ้มครองชั่วคราวให้กับการชุมนุมที่เป็นไปโดยสงบปราศจากอาวุธ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 ต.ค. ที่ศาลแพ่ง ได้มี น.ส.ศุกรียา วรรณายุวัฒน์ กับพวกรวม 6 คน ซึ่งเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ นิสิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เดินทางมาเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นจำเลยที่ 1-3 ฐานละเมิด ขอให้เพิกถอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เพิกถอนประกาศและคำสั่งหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ห้ามมิให้นำมาตรการคำสั่งและการกระทำมาใช้กับโจทก์และผู้ชุมนุม พร้อมขอคุ้มครองชั่วคราว
น.ส.ศุกรียา อ่านแถลงการณ์ถึงการฟ้องคดีสรุปได้ว่า เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ถือเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ได้รับการรับรองและคุ้มครองในกฎหมายระหว่างประเทศหลายฉบับ รวมถึงเป็นเสรีภาพที่ได้รับการรับรองและคุ้มครองไว้ในรัฐธรรมนูญ 2560 แต่รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ กลับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร เป็นเครื่องมือทางกฎหมายและอำนาจในการปิดกั้นการใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธของประชาชนชาวไทยอย่างเกินขอบเขตโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
...
การสลายการชุมนุมในช่วงเช้ามืดของวันที่ 15 ต.ค. 2563 โดยไม่ปรากฏเหตุอันตรายร้ายแรงนั้น เป็นการกระทำที่ขัดกับหลักการปฏิบัติสากล การสลายการชุมนุมในช่วงค่ำของวันที่ 16 ต.ค. 2563 ปรากฏภาพเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งใช้มาตรการที่ไม่ปฏิบัติตามหลักสากล เช่น ใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดน้ำผสมสารเคมีไปที่ผู้ชุมนุม ทั้งที่ในทางปฏิบัติ การใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงจะต้องใช้กับกรณีที่มีการจลาจลที่เสี่ยงก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินเท่านั้น พยายามในการใช้แก๊สน้ำตากับผู้ชุมนุมและขู่จะใช้กระสุนยางโดยไม่มีเหตุอันสมควร สิ่งเหล่านี้ล้วนแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการใช้อำนาจรัฐตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงฯ เพื่อละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนอย่างเกินขอบเขต อย่างอยุติธรรม และอย่างน่าละอาย โดยไม่เคารพหลักการทางกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายระหว่างประเทศแต่อย่างใด
“พวกเรา นิสิตและนักศึกษาทั้ง 6 คน ในฐานะประชาชนที่เพียงออกมาใช้สิทธิและเสรีภาพที่พวกเราอันพึงมี และควรต้องได้รับการคุ้มครองจากรัฐ แต่กลับถูกรัฐบาลกระทำการจำกัดและลิดรอนอย่างเกินสมควรโดยไร้เหตุผลและความชอบธรรม จึงได้ทำการเป็นโจทก์ร่วมกันยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งระงับการใช้อำนาจทั้งปวงของรัฐบาลตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในกรุงเทพมหานครไว้ชั่วคราวจนกว่าศาลจะได้มีคำพิพากษาในคดีนี้ พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ศาลในฐานะองค์กรตุลาการ จะทำหน้าที่ในการพิทักษ์และรักษาไว้ซึ่งความยุติธรรมและความกล้าหาญเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนอย่างเต็มที่ ด้วยความเคารพต่ออำนาจอธิปไตยของประชาชน” แถลงการณ์ ระบุ
ทั้งนี้ กลุ่มนิสิตนักศึกษายังได้อ่านแถลงการณ์เป็นภาษาอังกฤษและภาษาเยอรมันด้วย.