สธ.และกรมสุขภาพจิต ประชุมหารือ ตร.ชัยพฤกษ์ เพื่อวางแผนฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กอนุบาลที่ถูกครูโรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ทำร้าย เบื้องต้นผู้ปกครองพาเด็กมารับการรักษาแล้ว 20 ราย คาดจะมีตามมาอีก
เมื่อวันที่ 8 ต.ค.63 ที่ สภ.ชัยพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการ รมว.สาธารณสุข นพ.สมัย ศิริทองถาวร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต พร้อมด้วยทีมจิตแพทย์ ทีมนักจิตวิทยาจากกรมสุขภาพจิต และชุดพนักงานสอบสวนคดีครูทำร้ายเด็กนักเรียนโรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ ร่วมประชุมที่ห้องประชุมชั้น 3 โรงพัก เพื่อวางแผนฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็ก ซึ่งใช้เวลานานกว่า 1 ชม. โดยมีผู้ปกครองกว่า 20 ราย ที่ได้รับผลกระทบถูกครูทำร้ายพาลูก ทยอยกันเดินทางมารับการตรวจ
หลังเสร็จสิ้นการประชุม นายวัชรพงศ์ เผยว่า หลังทราบเรื่องที่เกิดขึ้นทางสำนักงาน รมว.สาธารณสุข ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ ในการสืบสวนหาข้อมูลร่วมกันจากผู้ปกครองและเด็กนักเรียนที่ถูกทำร้าย ตามที่เป็นข่าว เพราะคดีนี้เป็นคดีที่มีความละเอียดละอ่อนอย่างมาก เราจึงต้องมีการประชุมร่วมมือกันทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน เพื่อกำหนดแผนในการช่วยเหลือเด็กที่ได้รับผลกระทบ โดยมอบหมายให้ทางกรมสุขภาพจิต เข้ามาช่วยเหลือ
...
ด้าน นพ.สมัย กล่าวต่อว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้มีความเป็นห่วงเป็นใยในการดูแลเด็กและผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบในเรื่องดังกล่าว แต่เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนที่เกี่ยวข้องในทางกฎหมายมีทั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการ และนักกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย กรมสุขภาพจิตจึงได้หาแนวทางในการขอร่วมมือกับผู้รับผิดชอบในการเข้ามาช่วยเหลือเด็กที่ถูกทำร้าย ร่วมถึงเด็กที่อยู่ข้างเคียง หรือห้องเดียวกัน ร่วมถึงผู้ปกครองของเด็ก ครูในโรงเรียนก็ได้รับผลกระทบด้วยส่วนหนึ่ง แต่เราต้องดูแลเด็กที่ถูกทำร้ายก่อนเป็นอันดับแรก ในเรื่องสุขภาพร่างกาย ความปลอดภัย ตามผลกระทบหนักเบา หลังจากนั้นจึงค่อยไปดูในเรื่องต่างๆ ต่อไป
รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวอีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นพบว่าเด็กนักเรียนที่ถูกทำร้ายจะเป็นเด็กเนอสเซอรี่กับเด็กอนุบาล โดยเด็กกลุ่มนี้ยังไม่สามารถพูดคุยได้เหมือนกับผู้ใหญ่ เราจึงต้องดูแลรักษาในเรื่องของส่ิงแวดล้อมให้กับเด็กก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งส่ิงแวดล้อมที่ดีที่สุดก็ คือ สถานพยาบาลเมื่อดูแลเด็กจนดีขึ้นแล้ว เราจะทำการประเมินสภาพจิตใจของเด็กก่อนจะช่วยเหลือในเรื่องอื่นต่อไป เพื่อให้เด็กกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ สำหรับการรักษาเด็กนั้นต้องแบ่งการรักษาเป็นรายเคสไป เพราะเด็กที่ถูกกระทำจะมีอาการมากน้อยไม่เท่ากัน โดยจะใช้เวลาในการดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจ ตามอาการของเด็กที่ได้รับผลกระทบ
เบื้องต้นพบว่า มีผู้ปกครองเด็กติดต่อพาเด็กเข้ามารับการรักษาแล้วประมาณ 20 คน แต่อาจจะมีผู้ปกครองทยอยเข้ามาเพิ่มอีก หากมีความต้องการ.