เขยน้องปืนโหดยิงเขยพี่ดับคาบ้านพักพ่อตาแม่ยาย หลังขี่ จยย.พาเมียมาที่บ้านพ่อ พอจอดรถได้ก็ชักปืนจ่อระยะเผาขน ก่อนหลบหนีไป พบทั้งคู่เคยมีปากเสียงในเรื่องความหึงหวง


เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 21 ก.ย.63 ร.ต.อ.สมภพ เกสรมาศ รอง สว.สอบสวน สภ.สากอ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตหน้าบ้านเลขที่ 93 ม.5 ต.สากอ จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.สุพจน์ เรืองรุ่งโรจน์ สว.สภ.สากอ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบกองเลือดตกอยู่ที่ดินบริเวณหน้าบ้านพักหลังดังกล่าว และมีอาวุธปืนพก ขนาด 9 มม.ตกอยู่ จำนวน 1 กระบอก พร้อมปลอกกระสุนปืน จำนวน 3 ปลอก ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บพลเมืองและเครือญาติได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงปาดี ไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อคือ นายยะยา อาลี อายุ 50 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนพก ขนาด 9 มม. ที่บริเวณหน้าอก จำนวน 1 นัด ชายโครงขวาและต้นขาขวาอีก 2 นัด รวม 3 นัด อาการสาหัสและได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายอุสมาน เจ๊ะนิ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/2 ม.4 ต.ปูโย อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นคู่เขยผู้น้องกับผู้เสียชีวิต ได้ชวนภรรยาขี่รถ จยย.ออกจากบ้านพัก เพื่อเดินทางไปยังบ้านจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านพ่อตาแม่ยาย ที่ผู้เสียชีวิตร่วมอาศัยอยู่ด้วยกับภรรยา เมื่อถึงบริเวณหน้าบ้านพัก นายอุสมาน ได้จอดรถ จยย.เพื่อให้ภรรยาลงจากรถ ทันใดนั้น นายอุสมาน ได้เดินตรงไปหาผู้เสียชีวิตแล้วได้ชักอาวุธปืนพก ขนาด 9 มม.ออกจากเอว จ่อยิงผู้เสียชีวิตในระยะเผาขน เมื่อถูกกระสุนปืน ผู้เสียชีวิตได้ล้มทั้งยืน ท่ามกลางความตกตะลึงของภรรยา แล้วนายอุสมานได้วิ่งไปขี่รถ จยย.ของตนเองที่จอดอยู่บริเวณหน้าบ้านของพ่อตาแม่ยายหลบหนีไป แต่ได้ทำอาวุธปืนพกตกไว้ในที่เกิดเหตุ

...


ด้าน พ.ต.ท.สุพจน์ เรืองรุ่งโรจน์ สว.สภ.สากอ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปมเหตุจากความหึงหวง ที่นายอุสมาน ซึ่งเป็นเขยน้องเคยมีปากเสียงกับผู้เสียชีวิตที่เป็นเขยพี่ ที่สมาชิกในครอบครัวต่างทราบกันดี ผู้เสียชีวิตถูกนายอุสมานกล่าวหาทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริง และทางพ่อตาแม่ยายและสมาชิกในครอบครัวได้อธิบายเรื่องนี้ให้นายอุสมานรับฟังไปแล้ว แต่นายอุสมานยังคาใจ และจู่ๆ นายอุสมานได้ชวนภรรยากลับบ้านพ่อตาแม่ยาย และได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงคู่เขยผู้พี่จนเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นสมาชิกในครอบครัว เพื่อรวบรวมกับหลักฐานที่เก็บรวบรวมได้ในที่เกิดเหตุ เพื่อขออนุมัติหมายจับจากศาล จ.นราธิวาส จับกุมตัวนายอุสมาน มาลงโทษตามกฎหมายต่อไป.