ผบช.ภ.6 สั่งเร่งจับคนร้ายฆ่าปาดคอ ยายวัย 74 ปี เจ้าของร้านเสริมสวยกลางเมืองพิษณุโลก ยันเป็นการลงมืออุกอาจ ขณะที่ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ย้ำจับตัวคนร้ายได้แน่ เนื่องจากประเด็นการก่อเหตุตีวงแคบลง มั่นใจผู้ก่อเหตุเป็นหญิงขี่สกู๊ปปี้ไอ สีแดง ขณะที่บรรยากาศบ้านคุณยายเป็นไปด้วยความเงียบเหงา
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 4 ก.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธมีดปาดคอคุณยายวัย 74 ปี เจ้าของร้านเสริมสวยช่อทิพย์ ย่านห้างสรรพสินค้าท็อปแลนด์พลาซ่า ถนนเอกาทศรถ กลางเมืองพิษณุโลก พร้อมกับชิงทองของผู้เสียชีวิตไปด้วย ในที่เกิดเหตุเพื่อนบ้านเห็นหญิงสาววัยประมาณ 25-30 ปี เดินเข้าออกร้านเสริมสวย และมีเพื่อนบ้านได้ยินเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง มีเสียงคล้ายผู้เสียชีวิตกับสาวเสียงห้าว สักพักก็เห็นขี่รถจักรยานยนต์ Honda Scoopy i สีแดง ออกไปจากร้าน เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไล่กล้องวงจรปิดใกล้เคียงกับสถานที่เกิดเหตุและตามถนนเอกาทศรถ เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญตามที่ได้มีการเสนอข่าวให้ทราบไปแล้วนั้น
...
พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า คดีนี้ถือว่าเป็นคดีสะเทือนขวัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นการก่อเหตุกลางเมืองพิษณุโลก ทาง ผบช.ภ.6 ได้กำชับให้ทำงานรัดกุมและเร่งจับตัวคนร้ายรายนี้ให้เร็วที่สุด พร้อมกับส่งชุดสืบสวนของภาค 6 และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดมาร่วมกับชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ในการตรวจสอบติดตามหาคนร้าย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กำหนดประเด็นไว้กว้างครบทุกประเด็น และยังไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชิงทรัพย์, เรื่องของทะเลาะวิวาทกับคนรู้จักในเรื่องปัญหาส่วนตัว หรือว่าเป็นกลุ่มของบุคคลมีประวัติเก่าๆ และกลุ่มของผู้ที่เสพยาเสพติด ลักเล็กขโมยน้อย
เบื้องต้นได้มอบหมายงานให้ชุดสืบสวนทุกชุดลงพื้นที่ไปตามประเด็นที่เราวางไว้ เพื่อจะค่อยๆ บีบให้แคบลง พร้อมกับตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุ และตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนีได้ ซึ่งเบื้องต้นได้ตรวจสอบรถต้องสงสัยได้ 3 คัน ที่เป็นรถสกู๊ปปี้ไอ สีแดง จากกล้องวงจรปิดริมถนนเอกาทศรถ ที่สามารถจับภาพไว้ได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกำลังช่วยกันตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถ เพื่อหาชื่อผู้ครอบครองและติดตามตัวมาสอบปากคำ ว่าเกี่ยวข้องและรู้จักกับผู้เสียชีวิตหรือไม่ รวมทั้งได้มาที่ร้านเสริมสวยดังกล่าวหรือไม่ ขณะนี้ได้นำตัวหญิง 1 ราย อายุ 26 ปี มาตรวจเก็บดีเอ็นเพื่อเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุหรือไม่ เชื่อว่าเราจะสามารถจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ได้อย่างแน่นอน
ขณะที่บ้านคุณยายที่เป็นเจ้าของร้านเสริมสวย ช่อทิพย์ ย่านห้างสรรพสินค้าท็อปแลนด์พลาซ่า ถนนเอกาทศรถ กลางเมืองพิษณุโลก บรรยากาศเช้าวันนี้ที่หน้าบ้านของผู้เสียชีวิต ยังคงถูกปิดเงียบ เจ้าหน้าที่ขึงเชือกห้ามเข้าเอาไว้ หน้าบ้านมีเพียงรองเท้าของผู้เสียชีวิต 1 คู่ ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ออกมาจับกลุ่มพูดคุยกันถึงคดีสะเทือนขวัญดังกล่าว และต่างรู้สึกเสียใจ เพราะผู้ตายเป็นคุณยาย อายุ 74 ปี ซึ่งชรามากแล้ว และยังเป็นคนจิตใจดี มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
...
ด้าน นายชาญพิชญ์คุณ กัลป์ทองชูโชค หรือ "สาม" อายุ 48 ปี ลูกชายคนเล็กของผู้เสียชีวิต ซึ่งมีบ้านพักอยู่ตรงข้าม เปิดเป็นร้านขายดอกไม้และพวงหรีด เยื้องๆ กับบ้านผู้เสียชีวิต เช้าวันนี้ยังคงตื่นมามองหน้าบ้านของแม่ด้วยความเศร้าใจ พร้อมให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า ผ่านมาหนึ่งคืนที่คุณแม่ไม่อยู่แล้ว รู้สึกเหงา เพราะแม่เสียไปอย่างกะทันหัน ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมานั้นหลับตาไม่ลงเลย นอนไม่หลับ เพราะเป็นคดีที่โหดร้ายมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุนี้กับคนใกล้ตัว และเกิดขึ้นกลางเมืองพิษณุโลก ส่วนเรื่องคดีนั้นมั่นใจว่าตำรวจน่าจะจับได้ เพราะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกลางเมือง ย่านชุมชน มีกล้องวงจรปิดในหลายจุด ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าหากจับตัวคนร้ายได้แล้วอยากจะบอกอะไรกับคนก่อเหตุ ตัว นายชาญพิชญ์คุณ บอกว่า อยากจะถามว่าจิตใจทำด้วยอะไร เพราะคนแก่อายุ 74 ปี มันเกินไปไหมที่ทำขนาดนี้กับคนแก่คนหนึ่ง