ตำรวจภูเก็ตเรียกรุ่นพี่คนคุมซ้อมเชียร์ลีดเดอร์สอบปากคำ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ชี้ อาจเข้าข่ายความผิดประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่ยังต้องรอผลชันสูตรก่อน ยืนยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
ความคืบหน้าการเสียชีวิตของ น.ส.พรพิพัฒน์ เอียดดำ หรือ น้องมิ้นท์ อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ถูกรุ่นพี่สั่งลงโทษให้วิ่งบริเวณลานจอดรถหน้าอาคารเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ภายในมหาวิทยาลัย จนเกิดอาการช็อกหมดสติและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 ส.ค.63 พ.ต.อ.ธีระวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต เปิดเผยว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปค่อนข้างมาก ได้มีการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 10 ปาก โดยให้การว่า ในวันเกิดเหตุ คือ 19 ส.ค. ได้มีการซ้อมเชียร์ลีดเดอร์กันตั้งแต่ช่วงเย็น โดยมีรุ่นพี่ที่คุมการซ้อม 4 คน และหนึ่งในนั้นเป็นหัวหน้ากลุ่มของการฝึกซ้อม ในระหว่างทำการฝึกซ้อมได้มีข้อตกลงร่วมกันว่า หากทำไม่พร้อมกันจะต้องไปวิ่ง และหลังจากฝึกซ้อมเสร็จทั้งหมดได้ไปวิ่งตามข้อตกลง บริเวณลานจอดรถหน้าอาคารเทคโนโลยีอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ข้างขุมน้ำ
...
และเมื่อวิ่งไปได้ประมาณ 6 รอบเศษๆ นักศึกษาที่เสียชีวิตล้มลงหมดสติ จากนั้นได้มีการนำตัวส่งโรงพยาบาลก่อนที่จะเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้นคือ วันที่ 20 ส.ค. ส่วนรุ่นพี่ที่เหลืออีก 3 คน บอกว่าช่วงที่เกิดเหตุทำกิจกรรมอยู่ด้านบนอาคาร และไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าว
ในวันนี้หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกรุ่นพี่ โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาผู้ปกครองได้นำรุ่นพี่ที่เป็นหัวหน้าคุมซ้อมมาสอบปากคำ เบื้องต้นความผิดที่ชัดเจนน่าจะเป็นการกระทำโดยประมาท โดยน่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาแก่รุ่นพี่ในวันนี้ ส่วนรุ่นพี่อีก 3 คน ซึ่งยืนยันว่าในช่วงที่เกิดเหตุไม่ได้อยู่ในบริเวณดังกล่าวได้มีการกันไว้เป็นพยาน ส่วนทางคดี ทางตำรวจได้ทำตามพยานหลักฐานซึ่งต้องรอผลการชันสูตรศพจากทางแพทย์ แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย.