คดีหนุ่มขอนแก่นเชือดจู๋แล้วผูกคอตายชักวุ่น ตร.หนองเรือ ไปที่วัดขอศพส่งชันสูตรอีกรอบ แต่เจ้าอาวาสและญาติไม่อนุญาต เพราะไม่พอใจที่ผลชันสูตรรอบแรกยังไม่ออก ด้านชาวบ้านยันผู้ตายเป็นคนดี


เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 8 กรกฎาคม 2563 ที่วัดสว่างมนาวาส บ้านเหมือดแอ่ ม.7 ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นที่ตั้งสวดอภิธรรมศพนายยอดชาย แสนสงค์ อายุ 46 ปี ชาวบ้านเหมือดแอ่ ซึ่งพบศพเมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจากภาค 4 และสืบสวน ภ.จว.ขอนแก่น สืบสวน สภ.หนองเรือ ลงพื้นที่สอบสวนนางยุพิน พรมกัน อายุ 41 ปี ภรรยาผู้ตายและลูกชายทั้งสองคน


ในขณะเดียวกัน ร.ต.อ.จำลอง ดวงพรม สว.(สอบสวน) สภ.หนองเรือ ได้เดินทางเข้าพบ พระครูสุมนปัญญาธิคุณ เจ้าอาวาสวัดสว่างมนาวาส ซึ่งเป็นน้าชายของคนตายรวมถึงพบภรรยาและญาติพี่น้องของคนตาย เพื่อประสานการขอรับศพผู้ตาย ส่งให้แพทย์นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น ชันสูตรศพครั้งที่ 2 ที่โรงพยาบาลแต่เจ้าอาวาส ไม่ให้ โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันตายของนายยอดชาย ญาติพี่น้องติดใจ ศพก็ส่งตรวจพิสูจน์แล้ว ผลการชันสูตร ยังไม่ออกมา จึงยังไม่ให้ไป เพราะช่วงเย็นยังต้องสวดอภิธรรมศพผู้ตายด้วย พนักงานสอบสวนจึงต้องเดินทางกลับไปทันที

...


ด้าน พระครูสุมนปัญญาธิคุณ เจ้าอาวาสวัดสว่างมนาวาส ผู้มีศักดิ์เป็นน้าชายของคนตาย กล่าวว่า อาตมาไม่ได้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ แต่อยากให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงความเหมาะสม เนื่องจากเอาศพคนตายไปแล้ว ผลการชันสูตรยังไม่ออกมา ถ้าอยากได้ศพไป แพทย์และตำรวจต้องมีผลการชันสูตรศพมาให้ภรรยาและครอบครัวคนตายได้ทราบว่า คนตาย ตายเพราะฆ่าตัวตาย หรือตายเพราะสาเหตุใด

ขณะที่ นางยุพิน พรมกัน อายุ 41 ปี ภรรยาผู้ตาย เปิดเผยว่า การที่ตำรวจมาขอรับศพไปชันสูตรเป็นครั้งที่สองนั้น โดยส่วนตัวไม่ขัดข้อง เพราะอยากรู้ว่าสามีตายด้วยเหตุใด แต่ทั้งนี้ก็ต้องถามบิดา มารดาของสามีด้วยว่า จะให้เอาไปหรือไม่

“ตลอดทั้งวัน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบปากคำตลอด โดยก็ให้ข้อมูลความจริงไปหมด เพราะสามีเป็นคนไม่เคยมีเรื่องกับใคร ส่วนลูกชายคนโตที่เป็นลูกติด สามีก็เลี้ยงมาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ไม่เคยมีปัญหากันเลย ครอบครัวรักใครกันดี แม้ลูกชายเคยถูกจับและปล่อยตัวออกมา สามีก็ไม่เคยดุด่าหรือบ่นให้เสียหาย มีแต่ดูแลกันมาตลอด” ภรรยาผู้ตาย กล่าว

ขณะที่ นายจวง พรมโว อายุ 64 ปี และนายเสนาะ นาหมื่น อายุ 70 ปี เพื่อนรุ่นพี่ของผู้ตายและเป็นคนที่ทำงานร่วมกับผู้ตายมาตลอด ทั้งยังเป็นสมาชิกเครือข่ายทหารผ่านศึกอำเภอหนองเรือกับผู้ตาย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า คนตายเป็นคนดีมาก ไม่เคยคาดคิดว่า จะมาฆ่าตัวตายเพราะตั้งแต่เล็กจนมาถึงวันตาย นายยอดชายไม่เคยมีความเศร้าโศก เสียใจหรือหาเรื่องใคร เหล้าไม่ดื่มบุหรี่ไม่สูบ รักลูกเมีย หากแพทย์ลงความเห็นว่าฆ่าตัวตายเองคงไม่ใช่ เพราะเชื่อว่าต้องมีคนทำให้ตาย

...

ส่วน พ.ต.อ.ภพกร กวินโยธิน ผกก.สภ.หนองเรือ กล่าวว่า การตายของนายยอดชายนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ญาติจะติดใจ เพราะมีเลือดไหลออกมาจากอวัยวะเพศ ซึ่งแพทย์ได้ชันสูตรศพไปแล้ว ในเบื้องต้นแพทย์ลงความเห็นว่าฆ่าตัวตาย แต่เมื่อภรรยา ญาติพี่น้องและชาวบ้านติดใจ ผู้บังคับบัญชาจึงประสานแพทย์นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ เพื่อจะนำศพไปชันสูตรอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดเจนแก่ครอบครัวคนตาย

“ขณะนี้ครอบครัว ไม่อนุญาตให้ตำรวจนำศพไปที่นิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ เพราะต้องการทราบผลการชันสูตรศพรอบแรกจากแพทย์ ซึ่งได้เรียนให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นแล้ว เพื่อจะได้มีการหารือกันในขั้นตอนต่อไป และเพื่อที่จะขอใบผลการชันสูตรศพจากแพทย์ เพื่อที่จะได้ได้รับศพไปอีกครั้งในวันต่อไป” ผกก.สภ.หนองเรือ กล่าว.