รอง ผู้การนนท์ เผย จนท.ได้เบาะแสของกระบะสีดำที่ทำทีรถเสียขอให้นักเรียนหญิงช่วยก่อนจะทำอนาจารแล้ว แต่ขอตรวจสอบให้แน่ใจอีกที กำชับ จนท.ซุ่มตามดูคนร้าย ด้าน ผอ.ยันเด็กไปช่วยเอง ไม่ได้ถูกล่อลวง
จากกรณีรอง ผอ.โรงเรียนย่านนนทบุรี ถนนพิบูลสงคราม ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี พา น.ส.นิด อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.4 เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ถิรพัฒน์ ศิริรักษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับชายอายุประมาณ 30-40 ปี คนขับรถกระบะสีดำ หลังก่อเหตุอนาจารนักเรียนหญิง โดยออกอุบายว่ารถเสียให้ช่วยจับพวงมาลัยรถ แล้วเอามือล้วงใต้กระโปรงพยายามทำอนาจาร แต่นักเรียนสาวไหวตัวทันรีบหนีออกจากรถเข้าโรงเรียนแจ้งเหตุให้อาจารย์ฟัง
ความคืบหน้า วันนี้ (2 ก.ค.63) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียนดังกล่าว เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ดร.ชเนตตี วัจนะรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า วันเกิดเหตุมีชายอายุประมาณ 30-40 ปี ขับรถกระบะมาจอดตรงบริเวณใต้สะพานลอยคนข้ามหน้าโรงเรียน ก่อนออกอุบายว่ารถเสียให้น้องนักเรียนหญิงช่วยประคองพวงมาลัย ปกตินักเรียนคนนี้เป็นจิตอาสาของโรงเรียนอยู่แล้ว เมื่อมีคนมาขอความช่วยเหลือก็เข้าไปช่วยด้วยความเป็นจิตอาสา โดยคิดไม่ถึงว่าชายคนนี้จะก่อเหตุพยายามกระทำอนาจาร
...
ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามโชคดีที่นักเรียนมีไหวพริบ นำกระเป๋าหนังสือขวางประตูรถไว้ ทำให้ชายคนดังกล่าวไม่สามารถปิดประตูรถได้ เมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงรีบคว้ากระเป๋าหนีออกจากรถเข้าโรงเรียนแจ้ง รปภ.และอาจารย์ทันที ก่อนพากันไปแจ้งความ หลังเกิดเหตุทางโรงเรียนก็ประกาศเตือนนักเรียนให้ระมัดระวังตัวมากขึ้น ในการที่จะช่วยเหลือใครต้องมีเพื่อนอยู่ด้วย
ดร.ชเนตตี กล่าวอีกว่า สำหรับโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนที่มีแต่นักเรียนหญิง ทางโรงเรียนยืนยันว่ามีความปลอดภัยทั้ง เจ้าหน้าที่ รปภ. และอาจารย์จะเข้มงวดตรวจตราอยู่ตลอดเวลาภายในโรงเรียน เรื่องที่เกิดขึ้นต้องขอชี้แจงว่านักเรียนไม่ได้ถูกล่อลวงตามที่เป็นข่าว เพียงแต่น้องเขาเป็นนักเรียนจิตอาสามีคนมาขอความช่วยเหลือจึงเข้าไปช่วย
พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี สั่งการให้ตำรวจสืบสวนจังหวัดนนทบุรีลงพื้นที่ทำงานร่วมกับสืบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ และตามเส้นทางที่คนร้ายมาก่อเหตุและใช้หลบหนีหลังก่อเหตุ เบื้องต้นทราบเบาะแสรถคันดังกล่าวแล้ว แต่ต้องขอตรวจสอบก่อนว่าเป็นทะเบียนจริงหรือไม่ เนื่องจากข้อมูลการสอบสวนพบว่าคนร้ายได้ขับรถคันนี้มาก่อเหตุในลักษณะแบบนี้มา 3 ครั้ง ถือเป็นภัยคุกคามสวัสดิภาพนักเรียนหญิง ซึ่งตอนนี้โรงเรียนได้เปิดเทอมแล้ว ยังได้ให้ตำรวจสืบสวนดักซุ่มตามหน้าโรงเรียนแล้ว.