ศาลกาญจนบุรี อนุมัติหมายจับ "พัฒน์" เพื่อนชาย ร่วมปาร์ตี้มรณะ "น้องดาว" สาว ม.6 รวม 2 ข้อหา ข่มขืน มียาเสพติดไว้ในครอบครอง
จากเหตุพบศพ น้องดาว อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 และเป็นนางรำของโรงเรียนแห่งหนึ่ง เสียชีวิตบนเก้าอี้ไม้ยาวหน้าบ้าน ที่จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา สภาพศพมีเลือดไหลที่ปากและจมูก และมีคราบเลือดเปื้อนตามเสื้อผ้าบริเวณหน้าอก ซึ่งต่อมา เพื่อนชาย 1 ใน 3 คน รับว่า มีสัมพันธ์กับน้องดาว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 มิ.ย.63 พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภาค 7 มอบหมายให้ พล.ต.ท.สุพัฒน์ เชยชิด ผทค.พิเศษ ตร.ปฏิบัติหน้าที่ ภ.7 ลงพื้นที่ สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจสำนวนคดี กรณีการเสียชีวิตอย่างปริศนาของ น้องดาว โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชม.
หลังการประชุม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการพาตัวพ่อแม่น้องดาวมาสอบปากคำเพิ่มเติม รวมถึงเชิญตัว นายพัฒน์ และเยาวชนหญิง 1 คน มาสอบปากคำเพิ่มเติม ที่ สภ.ท่าม่วง
...
ส่วนความเคลื่อนไหวของชุดสืบสวน จังหวัดกาญจนบุรี และสืบสวน สภ.ท่าม่วง ช่วงเช้ามืดแบ่งกำลังเป็น 2 ชุด ลงตรวจค้นบ้านนายพัฒน์ และบ้านนายเต๋า 2 ใน 5 ผู้ร่วมวงดื่มกินกับน้องดาวก่อนตาย โดยเจ้าหน้าที่น่าจะตรวจหาหลักฐานเกี่ยวกับสารเสพติด และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
โดยแนวทางการสืบสวน คาดว่า น้องดาว ผู้เสียชีวิต ได้รับสารเสพติดประเภทหนึ่ง โดยการผสมน้ำหรือน้ำอัดลม อาจจะเป็นสารคีตามีน หรือ ยาเสียสาว โดยได้รับเกินขนาดทำให้เกิดอาการชักเกร็ง น้ำลายฟูมปาก อีกกลุ่มคือ ยานอนหลับ ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้นอนหลับเร็ว และสูญเสียความทรงจำชั่วขณะ
ส่วนสาเหตุที่เลือดไหลออกจากปากออกจมูก พบว่า ระบบเลือดในช่องเยื่อหุ้มปอดด้านซ้ายประมาณ 100 CC มีรอยปริขนาดเล็ก และมีเลือดซึมเล็กน้อยที่ยอดปอด เกิดจากการกดทับโดยการทำ CPR
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทางตำรวจจะต้องสอบสวนให้เป็นข้อกระจ่างคือ ใครเป็นคนนำยาเสพติดมาผสมให้ น้องดาว รวมถึงแหล่งที่ได้มาซึ่งยาเสพติด และเพราะเหตุใดถึงต้องให้ยานอนหลับกับผู้เสียชีวิตดื่ม
จากนั้น เวลา 14.30 น. พนักงานสอบสวนได้นำเอกสาร คาดว่าเป็นสำนวนการสอบสวนออกเดินทางไปศาลจังหวัดกาญจนบุรี คาดว่าเป็นการยื่นขออนุมัติหมายจับ 1 ผู้ต้องสงสัยที่น่าจะมีความผิดเกี่ยวกับการละเมิดคดีทางเพศ
ล่าสุด มีรายงานว่า ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้อนุมัติหมายจับนายพัฒน์ เพื่อนสนิทของ น้องดาว ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา และมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายแล้ว