ตร.ออกหมายเรียกกลุ่มรถเบิร์นยางฉลองวันแรกยกเลิกเคอร์ฟิว ในพื้นที่ สภ.คลองด่าน รับทราบข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยันใครเอี่ยวจับหมดไม่มียกเว้น
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2563 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ขอเปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีสื่อออนไลน์ นำเสนอข่าว “กลุ่มรถเบิร์นยางฉลองวันแรกยกเลิกเคอร์ฟิว” ในพื้นที่ สภ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ ว่า ตามที่ได้รับรายงานจาก สภ.คลองด่าน ว่า จากการตรวจสอบทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 13 มิ.ย. เวลา 21.30-22.00 น. บนนถนนลาดหวาย-เคหะ หมู่ 5 ต.บางเพรียง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ จากการสืบสวนทราบว่ารถที่ร่วมก่อเหตุ มีจำนวน 4 คัน คือ 1. กระบะอีซูซุ สีเทา ทะเบียน 2ตฎ 5281 กทม., 2. กระบะอีซูซุ สีเทา ทะเบียน บล 699 ฉะเชิงเทรา, 3. กระบะอีซูซุ สีส้ม ประตูดำ ทะเบียน ถว 701 กทม., 4. กระบะอีซูซุ สีม่วง ประตูดำ ทะเบียน ตฎ 1338 กทม. นั้น
รองโฆษตร ตร. กล่าวว่า วันนี้เวลาประมาณ 10.00 น. พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุ จำนวน 2 ราย มาพบ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีในข้อหา “ฝ่าฝืนข้อกำหนดแห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรม) และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น” และได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาอีก 2 ราย ให้มาพบในวันพฤหัสฯ ที่ 18 มิ.ย. 63 เวลา 10.00 น. เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป อีกทั้งหากมีข้อมูลเพิ่มเติมยืนยันว่าผู้ใดมีส่วนร่วมในการกระทำผิดก็จะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทุกราย
รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น ขอฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชน หรือกลุ่มต่างๆ ที่คิดจะรวมตัวกันเพื่อกระทำการในลักษณะข้างต้น ซึ่งหลังจากมีการปลดล็อกเฟส 4 แม้ในบางกิจกรรมจะสามาถทำได้ แต่หากเป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบในภาพรวม หรือมีผู้หนึ่งผู้ใดได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อน ตลอดจนเป็นการฝ่าฝืนการกระทำความผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวน ติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่มียกเว้น
...
ซึ่งที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทาง โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และให้มีการดำเนินการจัดตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งขันรถในทาง และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ตร. (ศปข.ตร.)
รองโฆษก ตร.กล่าวว่า จากผลการดำเนินกวดขัน จับกุม ปราบปราม ที่ผ่านมา พบว่า การรวมกลุ่มมั่วสุมในลักษณะที่น่าจะนำไปสู่การแข่งรถในทาง หรือขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น และสร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชน มีจำนวนลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากได้รับความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วนในการแจ้งเบาะแส ผ่านช่องทางต่างๆ เป็นจำนวนมาก ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งป้องกันเชิงรุก ปราบปราม ขยายผล และเฝ้าระวัง ส่งผลให้การปฏิบัติมีสถิติลดลงอย่างเป็นรูปธรรม