หนุ่มใหญ่วัย 51 ปี หนีคดีข่มขืนเด็กเป็นเวลาเกือบ 20 ปี เหลืออีกแค่ 13 วันจะหมดอายุความ สุดท้ายไม่พ้นมือตำรวจกองปราบ เผยผู้คนในละแวกปู่เจ้าสมิงพราย และ อ.พระประแดง ต่างพากันตั้งฉายา “ไอ้ผีดิบ”

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2563 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., สั่งการให้ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป.พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิญโย สว.กก.5 บก.ป. นำกำลังจับกุมนายวิลัย หรือเบี้ยว ผูกดวง อายุ 51 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนมที่ จ.1203/2547 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2547 ข้อหาคดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภริยาของตน จับได้ที่ ริมถนนปู่เจ้าสมิงพราย ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2543 ขณะที่ ด.ญ.นุ่น (นามสมมติ) ขณะนั้นอายุ 13 ปี กำลังเดินอยู่บริเวณป่าละเมาะ หมู่ 1 ต.ท่าค้อ อ.เมืองนครพนม ได้มีนายวิลัย หรือเบี้ยว อาศัยอยู่ที่บริเวณใกล้บ้านของ เด็ก ได้เข้าไปพูดคุยด้วย ก่อนจะใช้กำลังปลุกปล้ำข่มขืน ด.ญ.นุ่น เนื่องจากเห็นว่าเป็นสถานที่เปลี่ยวปลอดคน ผ่านไปสักครู่มีชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงได้ผ่านมาได้ยินเสียงเด็กร้องขอความช่วยเหลือ ผู้ต้องหาเกิดตกใจ รีบวิ่งหนีไป ผู้ปกครองเด็กพาไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครพนม ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดนครพนม ออกหมายจับไว้

ส่วนนายวิลัย ด้วยกลัวความผิดจึงหลบหนีคดี มาอยู่ในกรุงเทพมหานคร ประกอบอาชีพกรรมกรรับจ้าง แบกข้าวสาร และเร่ร่อนไปสถานที่ต่างๆ ไม่มีที่อยู่และสถานที่ทำงานเป็นหลักแหล่งมาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี

ต่อมาเจ้าหน้าที่ กก.5.บก.ป. สืบสวนทราบว่า นายวิลัย เร่ร่อนอยู่ละแวกปู่เจ้าสมิงพราย และ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ มีผู้คนในละแวกนั้นที่เคยเห็นต่างพากันตั้งฉายาผู้ต้องหานี้ว่า “ไอ้ผีดิบ” แต่ไม่รู้ว่าหลบหนีคดีมา จึงจับกุมตัวเอาไว้ได้ดังกล่าว ซึ่งคดีจะหมดอายุความในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ เหลืออีกแค่ 13 วันเท่านั้น

...

เบื้องต้นสอบสวนนายวิลัย ให้การภาคเสธว่า พยายามจะข่มขืนจริง แต่ยังไม่สำเร็จ จึงสำเร็จความใคร่ให้ตัวเอง นำตัวส่ง สภ.เมืองนครพนม ดำเนินคดีต่อไป.