นายสันธนะ หรือ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ (ถูกถอดยศ เมื่อวันที่ 24 ต.ค.61) อายุ 60 ปี อดีตรอง ผกก.ตำรวจสันติบาล ยื่นหนังสือ ผบ.ตร.ให้ตั้ง กก.สอบคดีนักธุรกิจจีนถูกไฮโซสาวหลอก 2.5 ล้าน อ้างเคลียร์อธิบดีกรมศุลฯ-บิ๊ก มท.-บิ๊กเกษตร นำเข้าเครื่องวัดไข้ เข้ามาจำหน่าย

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 มิ.ย.2563 นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ผู้รับมอบอำนาจ จาก นายซู่ เว่ย นักธุรกิจชาวจีน อายุ 38 ปี ได้เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนไฮโซสาว พร้อมพวก ร่วมกันฉ้อโกง นายซู่ เว่ย โดยมี พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์สุทธิ์ รอง ผบก.ผอ.ในฐานะหัวหน้าเวรอก.ตร. เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ

นายสันธนะ เปิดเผยว่า ตนได้นำหลักฐานมายื่นหนังสือกับ ผบ.ตร. เพื่อขอให้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน คดีไฮโซสาว ที่ร่วมกันฉ้อโกง นายซู่ เว่ย จำนวนเกือบ 3 ล้านบาท ที่มีการทำลักษณะเป็นขบวนการ สืบเนื่องจากได้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 นายซู่ เว่ย นักธุรกิจชาวจีน ได้นำเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายมาจำหน่าย และแจกให้กับหน่วยงานที่มีความจำเป็นในประเทศไทย เมื่อช่วงกลางเดือน มี.ค. แต่เนื่องจากเป็นชาวจีนทำให้ไม่ทราบวิธีการนำเข้า จึงถูกเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรยึดสินค้าไว้เพื่อรอยื่นหนังสือสำแดงสินค้า จากนั้น นายซู่ เว่ย ได้เข้ามาหาตน ตนจึงเข้าช่วยเหลือ ดำเนินการทำเอกสารและจ่ายภาษีนำเข้า ค่าระวางสินค้า เสียเงินไปหลักแสนบาทเท่านั้น ก็สามารถนำสินค้าทั้งหมดออกมาได้ ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าดำเนินการหลักล้าน ตามที่กลุ่มดังกล่าวเรียกเก็บเงินไป

โดย นายซู่ เว่ย นักธุกิจชาวจีน ได้เล่าว่า ไฮโซสาว หลอกว่าสามารถเคลียร์ปัญหาการนำเครื่องวัดอุณหภูมิที่นำเข้ามาจากประเทศจีน ที่ถูกเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยึดไปกว่า 3,500 ชิ้น ออกมาได้ โดยจะมีค่าดำเนินการกว่า 2.5 ล้านบาท ที่จะต้องไปจ่ายให้กับอธิบดีกรมศุลกากร 5 แสนบาท ผู้ใหญ่ในกระทรวงมหาดไทย ผู้ใหญ่ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนักการเมือง นายซู่ เว่ย จึงหลงเชื่อว่าจะนำของออกมาได้ โดยโอนเงินเข้าบัญชีไฮโซสาว แต่กลับไม่สามารถนำสินค้าออกมาได้ จึงมาขอให้ตนช่วย

...

นายสันธนะ กล่าวต่ออีกว่า ที่ นายซู่ เว่ย หลงเชื่อ เพราะกลุ่มดังกล่าวกับพวก สามารถพูดภาษาจีนได้ โดยอ้างว่าผู้เสียหายทำผิด สินค้าจึงโดนยึด หากจะเอาสินค้าออกนั้นยาก ต้องจ่ายเงิน ซึ่งความเป็นจริงนั้น สินค้าแค่ถูกนำไปเก็บไว้เท่านั้น เมื่อนำเอกสารมายื่นและเสียภาษีถูกต้อง ก็สามารถนำออกมาได้ อีกทั้งเห็นว่าในเมื่อลงทุนนำเข้ามาแล้ว แม้ว่าจะต้องจ่ายค่าดำเนินการเพิ่มอีก 2 ล้านบาท ก็ยอม และอยากได้สินค้ากลับคืนมา จึงยอมจ่ายให้กับกลุ่มดังกล่าว