ลุงวัย 62 ปี ขี่จยย.กลับจากไปซื้อน้ำมันที่ตลาด พุ่งชนประสานงา จยย.สองป้าหลาน ล้มหัวฟาดฟื้น เลือดนองดับ 1 สาหัส 1 ส่วนตัวเองชะตาขาดขวดน้ำมันแตกถูกไฟคลอกร่างย่างสด ตำรวจ สภ.พนมทวน คาดสาเหตุเกิดจากต่างฝ่ายต่างหักหลบน้ำท่วมขังบนพื้นผิวการจราจรริมถนน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 1 มิ.ย.2563 ร.ต.อ.ณัฐพัชร ท้วมสุข รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ชีพขุนรัตนาวุธ มูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ประจำจังหวัดกาญจนบุรี ว่า เกิดเหตุรถจักรยานยนต์ชนประสานงากันมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสาย รางยอม-หนองโรง หมู่ 8 ต.หนองโรง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลเจ้าคุณไพบูลย์พนมทวน ร่วมเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและชันสูตรพลิกศพ
ในที่เกิดเหตุพบเป็นถนน 2 เลน แบบแล่นสวนกัน บริเวณกึ่งกลางถนนพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ดรีม สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 1กฌ 6600 นครปฐม ชนประสานงากับรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า นูโว สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน 1กท 1879 สุพรรณบุรี สภาพรถทั้งสองคันด้านหน้ารถมีร่องรอยการชนประสานงาจนพังยับ บนพื้นถนนพบคราบน้ำมันและร่องรอยการถูกเผาไหม้จนรถพังเสียหายเกือบทั้งคัน
ในที่เกิดเหตุใกล้รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน พบศพนายเล็ก สีสุขสาม อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 8 ต.หนองโรง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี สภาพมีร่องรอยถูกไฟเผาไหม้เกือบทั่วร่าง และใกล้รถอีกคัน พบศพนางบุญเทียม วิเศษสิงห์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 10 ต.หนองโรง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี สภาพกะโหลกศีรษะแตกเป็นแผลขนาดใหญ่มีเลือดไหลนองเต็มพื้น แขนและขาหัก นอกจากนี้ยังพบผู้รับบาดเจ็บ คือ เด็กชายเอ อายุ 11 ปี เป็นหลายชายของนางบุญเทียม ซึ่งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ชีพขุนรัตนาวุธเร่งช่วยเหลือลำเลียงนำตัวส่งโรงพยาบาลเจ้าคุณไพบูลย์พนมทวน ไปก่อนหน้านี้แล้ว
...
จากการสอบสวนญาติของนายเล็ก ผู้เสียชีวิต เผยว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเล็กได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านเพื่อไปซื้อน้ำมันมาเติมเครื่องพ่นยา โดยหลังจากไปซื้อน้ำมันใส่ขวดที่ตลาดบ้านรังยา และกำลังขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้ากลับบ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ขี่รถพุ่งชนประสานงากับรถจักรยานยนต์ของสองป้าหลานคู่กรณีเข้าอย่างจัง ส่งผลให้นางบุญเทียมศีรษะฟาดพื้นเสียชีวิตคาที่ ส่วนหลานชายวัย 11 ปีที่นั่งมาด้วยได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนนายเล็กร่างกระแทกพื้น ส่วนน้ำมันที่ซื้อมาตกลงพื้นถนนขวดแตกน้ำมันไหลกระจาย จนเกิดไฟลุกไหม้คลอกร่างของนายเล็กจนเสียชีวิตอย่างสยดสยอง
ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการพยายามเบรกของรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ขณะที่รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คันกำลังขับสวนกันบนถนนเส้นดังกล่าว ต่างฝ่ายต่างพยายามที่จะหักหัวรถเพื่อหลบน้ำที่ท่วมขังอยู่บนผิวการจราจรริมถนนจึงทำให้รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คันพุ่งเข้ามาชนกันที่บริเวณกึ่งกลางถนนจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว
โดยพนักงานสอบสวนได้ทำการเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและจะเร่งสอบปากคำเด็กชายที่รอดขีวิต พร้อมสอบปากคำพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง และสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้และดำเนินคดีตามระเบียบกฎหมายต่อไป.