ตร.มุกดาหาร ยังคงลงพื้นที่ออกตามหาเสื้อน้องชมพู่ เพื่อนำมาใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการหาตัวคนร้าย โดยได้ค้นหาจากสวนยางพาราขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงยอดภูเหล็กไฟ หวังปิดคดีการตายปริศนาโดยเร็ว
กรณี น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ เด็กหญิงเคราะห์ร้ายที่หายออกจากบ้านในพื้นที่บ้านกกกอก หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร นานกว่า 4 วัน ต่อมาพบศพเปลือยในป่าภูเหล็กไฟ หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ห่างจากบ้านไปราว 1.7 กม. ต่อมาทางครอบครัวได้มีการจัดพิธีฌาปนกิจศพไปเมื่อวันที่ 20 พ.ค.63 ที่ผ่านมา มีนายสันธาน สร้อยสำโรง รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเผาศพ โดยมี นายชัชวาล ทองชน นายอำเภอดงหลวง พ.ต.อ.ธวัชชัย ถุงเป้า รอง ผบก.จ.มุกดาหาร พ.ต.ท.สุริยา นภกรีกำแหง สวญ.สภ.กกตูม นายกเทศมนตรีตำบลดงหลวง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่จำนวนมากมาร่วมพิธี ตามความแจ้งอยู่แล้วนั้น

ความคืบหน้า ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 พ.ค.63 พ.ต.อ.วิจิตร บุญวรรณ ผกก.(สืบสวน) กองบังคับการตำรวจภูธร จ.มุกดาหาร กล่าวว่า ในวันนี้ (วันที่ 22 พ.ค. 63) ตนเองได้ปล่อยชุดไล่ล่าหาหลักฐานสำคัญคือเสื้อของน้องชมพู่หรือหลักฐานอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของน้องชมพู่ โดยมีการปล่อยตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนของกองบังคับการตำรวจภูธร จ.มุกดาหาร ไปไล่ล่าหาหลักฐานที่สำคัญ คือ เสื้อของน้องชมพู่ เริ่มตั้งแต่สวนยางพาราขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงยอดภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก หมู่ ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ให้มีการตรวจค้นภายในภูเหล็กไฟดังกล่าวอย่างถี่ถ้วน เพื่อหาเสื้อของน้องชมพู่กันให้ได้อีกด้วย และหากผลการตรวจค้นหากพบเสื้อของน้องชมพู่ อะไรๆ ก็จะดีกันตามมากันอีกด้วย และจะได้ปิดคดีของน้องชมพู่ได้เร็วขึ้นกันอีกด้วย
...


ด้านลุงของน้องชมพู่ กล่าวว่า พิธีเผาศพของน้องชมพู่ก็ได้เสร็จสิ้นลงไปแล้วเมื่อวันที่ 20 พ.ค 63 ที่ผ่านมาและจะมีพิธีเก็บอัฐิคือเก็บกระดูกของน้องชมพู่ภายใน 3 วัน หลังจากได้เผาศพน้องชมพู่เสร็จสิ้นตามจารีตประเพณีของหมู่บ้านที่เชิงตะกอนป่าช้าบ้านกกกอก หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร และสำหรับเรื่องผลการตรวจดีเอ็นเอของน้องชมพู่ที่กรุงเทพฯ ที่ยังตรวจไม่เสร็จกันอีกส่วนหนึ่ง หากว่าผลตรวจดีเอ็นเอเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว ตนเองก็อยากจะให้ทางร้อยเวรพนักงานสอบสวนของ สภ.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ได้ลงไปรับผลการตรวจดีเอ็นเอในร่างกายของน้องชมพู่ เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี เพื่อนำไปสู่การจับคนร้ายให้ได้โดยเร็วอีกด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบสวนทางลับของพนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจของ รอง ผบ.ตร. ที่ขึ้นมาสืบสวนสอบสวนคดีของน้องชมพู่ ทางชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุนั้นไม่ค่อยจะให้ความร่วมมือนัก มีแต่บอกว่าไม่ทราบ หรือแม้กระทั่งครอบครัวของน้องชมพู่เองก็ยังเปิดเผยข้อเท็จจริงออกมาไม่มากนัก ทำให้การสืบสวนสอบสวนยังไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร และพวกคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจจากส่วนกลางยังไม่สามารถปิดคดีของน้องชมพู่ดังกล่าวนี้ได้อีกด้วย.