ผบช.ภ.8.เผย สั่งย้าย 3 ตร.เอี่ยวรีดเงินพ่อค้าหอยแครง มาที่ภาค 8 จ.ภูเก็ต พร้อมตั้ง คกก.สอบข้อเท็จจริง หากพบว่าผิดจริง จะดำเนินคดีทั้งทางวินัยและอาญา
ความคืบหน้ากรณีมีผู้อ้างตัวเป็นตำรวจและจับกุมชาวประมงพื้นบ้าน ชุมชนบ้านสำโรง หมู่ 4 อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี และมีการกล่าวอ้างว่า มีการเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการดำเนินคดี จนทำให้ชาวบ้านไม่พอใจและล้อมรถไว้ ก่อนที่จะมีการเจรจาให้แยกย้ายกันไป
ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 พ.ค.63 พล.ต.ท.จิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ ผบช.ภ.8 ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตำรวจภูธรภาค 8 ได้มีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 3 นายมาปฏิบัติราชการที่ตำรวจภูธรภาค 8 จ.ภูเก็ตแล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่าเป็นไปตามที่มีการกล่าวอ้าง ก็จะมีความผิด โดยจะมีการดำเนินคดีทางวินัยและอาญา ซึ่งในระยะเวลาในการสอบสวนก็ว่าไปตามระเบียบ ซึ่งจะเร่งให้เร็วที่สุด

"การเข้าไปในพื้นที่ของตำรวจทั้ง 3 นาย เป็นการเข้าไปปฏิบัติหน้าที่สืบสวนสอบสวนตามปกติทั่วไป ส่วนการไปจับกุมชาวประมงพื้นบ้านรายดังกล่าว เป็นการเข้มงวดกวดขันตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีในการให้ประชาชนไปจับหอยแครงได้ในระยะ 1,000 เมตรจากฝั่ง โดยใช้มือหรือตะแกรง แต่หากมีการใช้คราดจะเป็นเรื่องของเรือประมง ซึ่งเป็นความผิด และเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนซึ่งมีอาชีพเก็บลูกหอย นอกจากนี้ยังเป็นการลดโอกาสของคนกลางที่จะมากว้านซื้อลูกหอยไปขายให้กับผู้เลี้ยงหอยแครง เบื้องต้นเป็นการจับกุมในตลาดชุมชน" ผบช.ภ.8 กล่าว
...
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวการอ้างว่า การเรียกรับเงินนั้นครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก พล.ต.ท.จิรวัฒน์ กล่าวว่า ในเรื่องนี้ก็ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และข้อเท็จจริงต่างๆ ก็จะปรากฏตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับกรณีที่มีการอ้างว่าตำรวจทั้ง 3 นายเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลนั้นจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเช่นกัน หากเกี่ยวเนื่องกับเรื่องใดก็ดำเนินการไปตามกรณี.