แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เผยผลการตรวจชันสูตรศพรอบสอง “น้องชมพู่” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ พบบาดแผลตามร่างกายและอวัยวะเพศ หลังครั้งแรกที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ตรวจไม่พบ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 พ.ค.2563 ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ นายไชย์พล วิภา อายุ 44 ปี ลุงของ ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ น้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ ที่หายตัวไปจากบ้านพักใน อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร กว่า 4 วัน และพบเป็นศพในป่าห่างจากบ้านพักหลายกิโลเมตร เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยเดินทางพร้อม ร.ต.อ.นิพนธ์ ประเสริฐสังข์ ร้อยเวร สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร และตำรวจ สภ.กกตูม ซึ่งใช้รถตู้ตำรวจ นำศพน้องชมพู่ กลับ จ.มุกดาหาร
นายไชย์พล กล่าวว่า ตนทราบผลชันสูตรศพครั้งที่ 2 ซึ่งผลออกมาเป็นบวก น้องชมพู่มีร่องรอยถูกทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศ แต่ตรงไหนยังไม่ทราบ ส่วนในทางคดีหลังจากนี้ต้องรอเจ้าหน้าที่ว่าจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน แต่ไม่รู้สึกกังวลเพราะได้มาถึงจุดนี้ ถ้ามีอะไรที่โยงเข้ากับผู้ร้ายได้ก็น่าจะจับได้เร็วๆ นี้ ส่วนตัวยังไม่รู้ว่าผู้ต้องสงสัยเป็นใคร ยังไม่สงสัยต้องรอพ่อแม่ แต่ยอมรับผลชันสูตรออกมาแบบนี้ก็โหดร้ายเกินไป และรับไม่ได้กับคนที่ทำกับหลานตนเองแบบนี้ พร้อมระบุลึกๆ ไม่อยากให้เป็นคนในชุมชน เพราะมันน่ากลัวเนื่องจากยังจับคนร้ายไม่ได้
นายไชย์พล กล่าวอีกว่า ตั้งแต่ตนอาศัยอยู่มาที่หมู่บ้านไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้ ส่วนจะมีการฌาปนกิจหลานสาวหลังจากรับศพกลับไปที่บ้านหรือไม่ ต้องรอให้พ่อแม่ของน้องชมพู่ตัดสินใจอีกครั้ง พร้อมระบุว่า ก่อนหน้านี้ภาวนาไม่ให้หลานสาวถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถ้าเป็นการลักพาตัวแล้วมาถูกซ้ำเติมด้วยการทำร้ายร่างกายแบบนั้นอีกไม่อยากให้เป็นแบบนั้น แต่หากคนร้ายลักพาตัวไปแล้วหาทางกลับไม่ได้ ปล่อยน้องทิ้งไว้บนภูเขาคนเดียว ให้เป็นแค่เคสเดียวก็พอ ถ้ามีการล่วงละเมิดทางเพศน้องอีกก็ถือว่าใจร้ายมากๆ
...
พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า อยากฝากเรื่องการดูแลลูกหลานให้ดี เพราะคนคิดจะทำ ไม่ได้ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ขอให้ระวังให้มากกว่านี้ ส่วนศพหลานต้องกลับไปปรึกษาครอบครัวอีกครั้งว่าจะเก็บหรือเผา
เบื้องต้นผลจากแพทย์นิติเวช ระบุ สาเหตุการเสียชีวิตในใบแจ้งตาย ว่า "ไม่ปรากฏสาเหตุการตาย แต่พบบาดแผลตามร่างกายและอวัยวะเพศ" ส่วนผลการตรวจชิ้นเนื้อ ดีเอ็นเอ และสารคัดหลั่ง ต้องรอผลจากทางห้องปฏิบัติการ 45 วัน