หนุ่มชัยนาทวัย 29 ปี พนักงานร้านเหล้าแสงจันทร์ ต้องหยุดงานจากโควิด-19 ด้วยความขยัน และมีภาระต้องส่งเงินไปให้ครอบครัว ออกไปวิ่งวิน ขี่แกร็บไบค์ โชคร้ายถูกคนเมาขับฟอร์จูนเนอร์ชนตกสะพานข้ามแยกพระราม 9 เกือบไม่รอด รักษาตัวกว่า 2 เดือน คู่กรณีจ่ายทำขวัญมา 5 พันแล้วเงียบ  

เวลา 10.00 น. วันที่ 10 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากญาติเหยื่อ "เมาแล้วขับ" ว่า ญาติตนอาจพิการตลอดชีวิต แต่คู่กรณีกลับไม่มาเหลียวแล ควักเงินให้ 5 พันบาท แล้วหายหน้าไปเลย โดยขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องเช่าเลขที่ 95/39 ชั้น 2 ยงเจริญตึก T ถนนศรีนครินทร์ แยกซอยสุภาพงษ์ 3 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. 

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบพบ นายอันนา หรือ บอล ขำอินทรีย์ อายุ 29 ปี นอนพักฟื้นอยู่บนเตียง ในสภาพบาดแผลและรอยเย็บทั้งตัว ใส่ท่อสายปัสสาวะ และใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปตลอดเวลา ยังเดินเองไม่ได้ มีนางประกอบ คำเอม อายุ 59 ปี มารดา และเพื่อนๆ คอยดูแลอย่างใกล้ชิด โดยนายอันนายังสนทนาไม่ค่อยรู้เรื่อง เนื่องจากสมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง

นางประกอบ กล่าวว่า บ้านตนอยู่ จ.ชัยนาท เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.30 น. หน่วยกู้ภัยโทรศัพท์มาบอกว่าบอลประสบอุบัติเหตุ ดูจากสภาพแล้วมีโอกาสรอดไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ขณะนี้อยู่ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลราชวิถี หัวอกคนเป็นแม่แทบใจสลาย รีบให้ลูกชายอีกคนขับรถมาส่งที่โรงพยาบาล เมื่อมาถึงเห็นสภาพลูกชายมีผ้าพันเต็มตัว โดยหมอแจ้งว่า แขนขวาหัก ตับแตก ชายโครงฉีก ปอดฉีก สะโพกซ้ายแตกสมองกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง เลือดคั่งในสมอง โอกาสรอดไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ตนทำใจไม่ได้ร้องไห้ทั้งคืน หมอพยายามยื้อชีวิตลูกชายเอาไว้ จนมีอาการดีขึ้นตามลำดับ

...

"ช่วงที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลราชวิถี ใช้สิทธิ์การรักษาจาก พ.ร.บ.รถคู่กรณี เพราะ พ.ร.บ.รถจยย.ของลูกชายขาดต่อพอดี คู่กรณีคือ นายสำเริง สุวรรณนพคุณ อายุ 44 ปี มีอาการมึนเมา ขับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน 3 กฎ 5638 กรุงเทพมหานคร ชนลูกชายตนตกลงมาจากสะพานยกระดับข้ามแยกพระราม 9 ฝั่งขาเข้า แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง ร่างกระแทกพื้น แล้วยังขับหลบหนี แต่มีโชเฟอร์แท็กซี่พลเมืองดีขับตามไปจนถึงแฟลตดินแดง แล้วแจ้งตำรวจจนจับตัวได้ ตำรวจให้เป่าวัดแอลกอฮอล์มีปริมาณสูงถึง 156 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ส่วนเงินค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลราชวิถี 5 วัน เป็นเงิน 47,000 บาท คู่กรณีสำรองจ่าย และย้ายไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลบางนา 1 แล้วคู่กรณีก็ตามมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลอีก 37,000 บาท ให้ครบวงเงินค่ารักษาจาก พ.ร.บ.คือ 8 หมื่นบาท แล้วไปเบิกคืนได้ในภายหลัง"

นางประกอบ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นภรรยาของนายสำเริงจ่ายเงินค่าทำขวัญรอบแรกมา 3 พันบาท และต่อมาให้อีก 2 พัน จากนั้นก็ไม่ติดต่อมาอีกเลย ซึ่งลูกชายนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลทั้งหมด 50 วัน ค่าใช้จ่ายทั้งหมดกว่า 5 แสนบาท แต่ใช้สิทธิ์บัตร 30 บาท จนกระทั่งย้ายออกจากโรงพยาบาลมาเช่าห้องที่อยู่ไม่ไกลจากคลินิกที่ต้องล้างแผลทุกวัน การเดินทางไปล้างแผลก็ต้องให้เพื่อนช่วยกันพยุงเดินลงมาชั้นล่างแล้วนั่งรถเข็นต่อไปถึงคลินิก ระยะทางประมาณ 500 เมตร ชีวิตลำบากมาก ของทุกอย่างที่ใช้ในห้องเช่านี้ ทั้งเตียง รถเข็น ชั้นวางของล้วนแต่มีคนบริจาคมาทั้งนั้น ที่ต้องเช่าห้องอยู่ที่นี่เพราะบอลต้องไปล้างแผลทุกวัน และหมอที่รพ.บางนา 1 ยังนัดผ่าตัดอีกหลายครั้ง บอลเป็นเด็กดี ส่งเงินให้ที่บ้านทุกเดือน เรียกว่าเป็นเสาหลักของบ้านก็ว่าได้ ตอนนี้บอลทำงานไม่ได้แล้ว ครอบครัวลำบากมาก

"ตั้งแต่เกิดเรื่องมา ยังไม่เคยเห็นหน้านายสำเริงเลย อยากให้นายสำเริงออกมาดูแล และรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปด้วย" 

ด้านนายสมนึก เนียมเพาะ หัวหน้าช่างฝ่ายเทคนิคโรงเหล้าแสงจันทร์ ซึ่งเป็นหัวหน้าของนายอันนา กล่าวว่า นายอันนาเป็นช่างไฟ มีหน้าที่จัดแสง สี เสียงให้กับร้านโรงเหล้าแสงจันทร์ทุกสาขา เป็นคนขยันและนิสัยดี รักลูก หลังแยกทางกันแฟนที่มีลูกสาวอายุ 2 ขวบ แฟนได้รับลูกไปดูแลอยู่ที่จังหวัดสุโขทัย ช่วงที่ร้านโรงเหล้าแสงจันทร์ สาขาศรีนครินทร์ ยังเปิดอยู่ นายอันนาต้องส่งเงินกลับไปให้ลูกใช้วันละ 500 บาท ต่อมาร้านต้องปิดตัวเพราะพิษโควิด-19 นายอันนาต้องมาขี่วินจยย.รับจ้าง และวิ่งแกร็บไบค์ส่งของ แต่เงินที่ส่งไปให้ลูกสาวก็ลดลงเหลือแค่อาทิตย์ละ 2 พันบาท ต้องคืนบ้านเช่าเพราะเงินไม่พอ อาศัยนอนตามร้านเกม จ่ายเงินค่าเล่น 50 บาท หลับจนถึงเช้า แล้วออกไปขี่วินจยย.ต่อเลย

"อันนาจะวิดีโอคอลล์คุยกับลูกสาวทุกวัน เมื่ออันนาประสบอุบัติเหตุเช่นนี้ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าจะพิการตลอดชีวิต ทางร้านก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ รวบรวมเงินจนได้มา 5 หมื่นบาท นำมาช่วยเหลือ ส่วนทางบริษัทแกร็บเองก็รวบรวมเงินมาร่วมช่วยเหลือด้วยเช่นกัน และหากครอบครัวขาดเหลืออะไร ทางร้านโรงเหล้าแสงจันทร์ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอดไป

ด้าน พ.ต.ท.(ญ)ขนิษฐา เทพนวล สว.(สอบสวน) สน.มักกะสัน พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา โดยแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาประกอบด้วย 1.ขับขี่รถในขณะเมาสุราฯ เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส 2.ขับรถโดยประมาทหรือหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินฯ 3.เป็นผู้ขับขี่รถในทางซื่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่นฯ หลบหนีไป หรือไม่แสดงตัวต่อตำรวจฯ 4.กระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ขณะนี้ยังเหลือการสอบสวนแพทย์ รอผลตรวจสภาพรถจาก บก.จร. และสอบผู้บาดเจ็บ นัดส่งสำนวนฟ้องศาลต้นเดือนมิถุนายน ซึ่งภายในเดือนนี้จะเรียกคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายมาเจรจาเรื่องค่าช่วยเหลือและเยียวยาคนเจ็บ

...

เบื้องต้นฝั่งคนขับรถฟอร์จูนเนอร์ก็ยอมรับผิดทุกกรณี พร้อมเยียวยา และชดเชยค่าเสียโอกาสทุกอย่าง รวมทั้งชดใช้ซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ให้กับน้องบอลด้วย.