ตำรวจลพบุรี คุมตัว 4 ผู้ต้องหาที่ลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา แล้วยิงจนท.พิทักษ์ป่าเสียชีวิตที่เชิงเขารวก ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ด้านพ่อแม่มือยิงเผยเสียใจกับการสูญเสีย

จากกรณีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าไม้ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกาออกลาดตระเวนเพื่อป้องกันการกระทำความผิดลักลอบล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา ต.กุดตาเพชร อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี แล้วเกิดการยิงปะทะกับพรานป่าคนร้ายแล้ว จนนายคาร ไชยประเสริฐ จนท.พิทักษ์ป่าเกิดพลาดท่าถูกยิงเสียชีวิต 1 ศพ โดยเหตุเกิดขึ้นที่ในป่าบริเวณเชิงเขารวก ภายในหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยประดู่ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 4 พ.ค.63 ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 6 พ.ค.63 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.ณัฐพล ศุกระศร ผบก.ภ.จว.ลพบุรี เดินทางมายังที่ สภ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี เพื่อสอบสวนปากคำผู้ต้องหาคดีลอบยิง นายคาร ไชยประเสริฐ พนักงานราชการหน่วยพิทักษ์ป่าไม้ห้วยประดู่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา ต.กุดตาเพชร อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี ที่จากการสืบสวนสอบสวนจนสามารถรู้ตัวผู้ต้องสงสัยและพยานหลักฐาน จนนำไปสู่การขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุทั้งหมดจำนวน 4 คนประกอบด้วย นายเทศ เนตรแสงสี อายุ 37 ปี, นายบุญลือ ไทรขุน อายุ 38 ปี, นายวราวุฒิ ถั่วสนิท อายุ 30 ปี และนายบุญโลม จุลนาค อายุ 42 ปี ทั้งหมดเป็นบ้านคลองหิน ม.11 ต.กุดตาเพชร อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี

...

จากการสอบสวนในเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนให้การว่า ได้ลักลอบเข้าไปทำการล่าสัตว์ป่ายังป่าเขารวกที่จุดเกิดเหตุจริง และเมื่อไปพบเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ผู้ต้องหาทั้งหมดได้พยายามวิ่งหลบหนีไปคนละทิศละทาง โดยมีจนท.ป่าไม้วิ่งติดตามเพื่อจับกุม ตะโกนให้หยุดและยิงปืนขู่ใส่ให้หยุด ซึ่งมีแต่เพียงนายบุญโลมเพียงคนเดียวที่หันอาวุธปืนยิงใส่ จนท.ที่วิ่งติดตามจนทำให้เสียชีวิต

เบื้องต้นจากการตรวจเลือดพบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนมีสารเสพติดทุกคน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1-3 บุกรุกเขตป่าสงวน พกพาอาวุธปืน ส่วนนายบุญโลมผู้ต้องหาที่ 4 ในข้อหาฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ พกพาอาวุธปืน ก่อนที่จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ

ขณะที่พ่อและแม่ของนายประโลม มือปืนที่ก่อเหตุ เปิดเผยว่า นายประโลมทำงานขับรถบรรทุกพ่วงอยู่บริษัทแห่งหนึ่งที่ จ.สระบุรี โดยก่อนเกิดเหตุได้เดินทางกลับมาช่วยงานศพญาติๆ ที่เสียชีวิตในหมู่บ้าน และเมื่อเสร็จงานศพยังไม่ทันได้กลับไปทำงาน แต่เกิดอยากออกไปล่าสัตว์ป่ามาเป็นอาหาร ช่วงของเที่ยงคืนก่อนเกิดเหตุได้เดินทางเข้าไปในป่าที่เกิดเหตุเพื่อล่าสัตว์ จนกระทั่งรุ่งเช้าอีก 2 วันจึงเดินทางกลับมาบ้านพร้อมทั้งเล่าเหตุการณ์ที่ไปเจอกับ จนท.ป่าไม้ และขณะที่ จนท.ไล่ติดตามตะโกนให้หยุด และยิงปืนใส่ก่อนจึงได้ยิงสวนกลับไปจนถูกเจ้าหน้าที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คนนั้นมีอาชีพทำไร่ทำนาอยู่ที่หมู่บ้านเดียวกัน แต่ไม่ได้ออกเดินทางเข้าไปในป่าตอนเช้าพร้อมกัน แต่อาจไปเจอกันข้างในป่า และตนเองรู้สึกเสียใจ และไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น.