เคอร์ฟิวมาห้าคืน ยังมีการฝ่าฝืน เผยตำรวจประจำด่านเตรียมทำงานเร็วขึ้น

เผยเคอร์ฟิวผ่าน 5 คืนดำเนินคดีแล้ว 1,021 คน ตักเตือนอีก 135 ผู้ช่วย ผบ.ตร.ชี้กทม.น้อยกว่าต่างจังหวัด “บช.ภ.1-บช.ภ.4” แชมป์จับกุมมากสุด ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ยังฝ่าฝืน ยันตำรวจดำเนินคดีทุกคนอย่างเสมอภาคเท่าเทียมไม่มีข้อยกเว้น

เมื่อวันที่ 8 เม.ย.63 พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษก ตร. กล่าวว่า การดำเนินการตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คืนวันที่ 7 เม.ย.ต่อเนื่องเช้าวันที่ 8 เม.ย. ตำรวจ ร่วมกับ ฝ่ายปกครอง ทหาร สาธารณสุข และอาสาสมัครต่างๆ มีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และชุดสายตรวจร่วม ทั่วประเทศ 924 จุด ใช้กำลัง 18,793 คน ตรวจค้นบุคคลทั้งหมด 27,731 คน ตรวจค้นยานพาหนะทั้งหมด 20,977 คัน ส่วนใหญ่พบว่าเป็นผู้ที่มีเหตุผลและความจำเป็น คือ เป็นผู้ที่มีหน้าที่ในการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ขนส่งสินค้าทางการเกษตร การเข้าออกเวรทำงานผลัดกลางคืน และผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านการแพทย์ มีผู้ฝ่าฝืนออกนอกเคหสถาน และรวมกลุ่มชุมนุม ทั้งสิ้น 1,156 คน ดำเนินคดี 1,021 คน ตักเตือน 135 คน

วันเดียวกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวถึงผลการจับกุมผู้ฝ่าฝืนตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.ที่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังหลังตักเตือนในวันแรกๆ พบว่า มีการจับกุมเพิ่มขึ้นวันละกว่า 1,000 ราย โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ จับกุมกว่า 100 รายต่อวันน้อยกว่าต่างจังหวัด ขณะที่พื้นที่ต่างจังหวัด มีการจับกุมมากสุดคือพื้นที่ บช.ภ. 1 และบช.ภ.4 โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กวัยรุ่น เนื่องจากเป็นช่วงเวลาปิดเทอมทำให้ออกมารวมกลุ่ม และกลุ่มคนที่ไปงานเลี้ยงดื่มเหล้า รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับเสพยาเสพติด ทำให้ขาดสติไม่รู้เวลา จากนี้เจ้าหน้าที่จะมีการวิเคราะห์ข้อมูลกลุ่มผู้ฝ่าฝืนอย่างละเอียดอีกครั้ง ยืนยันตำรวจดำเนินการกับทุกคนที่ฝ่าฝืนอย่างเสมอภาคเท่าเทียมไม่มีข้อยกเว้นให้กับบุคคลใด

ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจทำงานให้เร็วขึ้น กรณีเจอคนที่ตั้งใจฝ่าฝืน อาจเป็นมิจฉาชีพ ต้องมีการระมัดระวังตัว พร้อมจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็วในการติดตามจับกุม ขณะเดียวกันฝากเตือนไปยังประชาชนให้เผื่อเวลาในเดินทางกลับบ้านให้ทันช่วงเคอร์ฟิว 22.00-04.00 น. และลดโอกาสการติดเชื้อด้วยการสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมืออยู่เสมอ

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงการบังคับใช้กฎหมาย ในห้วงที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19 ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้ตำรวจทุกหน่วย บังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และการกระทำความผิดอื่น อันเป็นการซ้ำเติมประชาชน รวมทั้ง ความผิดเกี่ยวกับ Fake News อย่างจริงจังและต่อเนื่อง.