คดีธนาธรฟ้อง 14 กกต.เร่งรัดเอาผิดคดียุบพรรคอนาคตใหม่ ศาลชี้ กกต.ทำไปตามอำนาจหน้าที่ และศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยแล้วในคดีที่มีการยื่นคำร้องยุบพรรคฯ ว่าชอบด้วยกฎหมายฯ ให้ยกฟ้อง
ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 เม.ย. ศาลมีคำสั่ง คดีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) และพรรคอนาคตใหม่ ร่วมกันเป็นโจทก์ที่ 1-2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเกรียงศักดิ์ ม่วงอ่อน ประธานคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนคดียุบพรรค อนค., นายนิยต ดำรงประภักดิ์, นายสุชาติ เพชรอาวุธ ทั้งสองเป็นกรรมการสืบสวนและไต่สวน, พ.ต.ต.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต., นางสุกัญญา รัตนนาคินทร์, พล.ท.สมชาย ชัยวณิชยา, พ.ต.อ.ชนะชัย ลิ้มประเสริฐ ทั้งสาม เป็นคณะอนุกรรมการวินิจฉัย, นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต., นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์, นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย, นายฉัตรชัย จันทร์พรายศรี, นายปกรณ์ มหรรณพ, นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ, นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ ทั้งเจ็ดเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นจำเลยที่ 1-14
ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้ผู้หนึ่งผู้ใดได้รับความเสียหายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 มาตรา 69 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86 กรณีทำสำนวนคดียุบพรรค อนค.ไม่ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และขั้นตอน มีลักษณะเร่งรัดคดี
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างวันที่ 8 ก.ค.-11 ธ.ค.62 คณะกรรมการ กกต. จำเลยที่ 8-14 ได้แต่งตั้งจำเลยที่ 1-3 ให้เป็นประธานกับคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน เพื่อรวบรวมหลักฐานและแสวงหาข้อเท็จจริงกรณีมีผู้ร้องกล่าวหานายธนาธร หัวหน้าพรรคและพรรค อนค. โจทก์ที่ 1-2 ว่ากระทำฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมืองหรือไม่ โดยอ้างว่าโจทก์ที่ 1 ให้พรรค อนค. โจทก์ที่ 2 กู้ยืมเงินจำนวน 191,200,000 บาท ซึ่งประธานและคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนฯ จำเลยที่ 1-3 ทราบระเบียบแล้วแต่ไม่ได้กระทำให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และขั้นตอน กลับร่วมกันทำรายงานการไต่สวนพร้อมทั้งสรุปสำนวนการสืบสวนและไต่สวนเสนอจำเลยที่ 4 เพื่อพิจารณา ทั้งที่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับโจทก์ทั้งสอง จึงถือได้ว่ายังไม่มีการไต่สวนตามกฎหมายและเป็นการละเว้นการกระทำอันมิชอบ และมีการกระทำมิชอบอื่นๆขอให้ศาลลงโทษ
...
ศาลพิจารณาข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายแล้วเห็นว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน เพื่อรวบรวมหลักฐานและแสวงหาข้อเท็จจริง กรณีมีผู้ร้องกล่าวหานายธนาธร อดีตหัวหน้าพรรค และพรรค อนค. เกี่ยวกับเงินกู้ยืม เป็นการแต่งตั้งไปตามอำนาจหน้าที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560, ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน การวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ.2561 และคณะอนุกรรมการวินิจฉัยได้ทำความเห็นเสนอ กกต.พิจารณาตามอำนาจหน้าที่ โดยการพิจารณาเรื่องที่จะเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค อนค. โจทก์ที่ 2 เริ่มวันที่ 26 พ.ย.62 ที่จำเลยที่ 8-14 มีมติในที่ประชุมว่าเพื่อให้การดำเนินการต่อกรณีที่กล่าวหาว่ามีกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับพรรคการเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้เลขาธิการกกต.จำเลยที่ 4 ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองพิจารณาและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560
โดยในส่วนของอำนาจหน้าที่ กกต.จำเลยที่ 8-14 กรณีดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญก็ได้มีคำวินิจฉัยไว้แล้วในคดีที่มีการยื่นคำร้องยุบพรรค โจทก์ที่ 2 ว่า ชอบด้วยกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นเด็ดขาด มีผลผูกพัน รัฐสภา, คณะรัฐมนตรี, ศาล, องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ตามรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ.2560 มาตรา 211 การกระทำของจำเลยทั้ง 14 คน จึงไม่เป็นความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง.