***แฟ้มภาพ
ศาลรับรองอนุญาตสู้ฎีกาคดีฆ่า “เสือดำ” หลัง “เปรมชัย-โชเฟอร์-พรานแกละ” ยื่นคำร้องขอฎีกาปัญหาข้อเท็จจริง ตาม ป.วิอาญา มาตรา 218
กรณีเมื่อ มี.ค.ที่ผ่านมา นายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 66 ปี ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) จำเลยที่ 1, นายยงค์ โดดเครือ อายุ 68 ปี คนขับรถและคนใกล้ชิดนายเปรมชัย จำเลยที่ 2, นายธานี ทุมมาศ หรือพรานแกละ อายุ 59 ปี นายพรานนำนายเปรมชัยเข้าป่า จำเลยที่ 4 ได้ยื่นคำขอให้ผู้พิพากษาที่พิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ รับรองและอนุญาตให้ฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงในคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 บัญญัติว่า กรณีที่ชั้นศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแก้โทษแต่จำคุกไม่เกิน 5 ปี ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงฯ มาตรา 221 บัญญัติว่า ถ้าผู้พิพากษาคนใดซึ่งพิจารณา ลงชื่อในคำพิพากษาหรือทำความเห็นแย้งในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ เห็นว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดและอนุญาตให้ฎีกา ให้รับฎีกาไว้พิจารณาต่อไป
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 1 เม.ย.63 มีรายงานว่า ผู้พิพากษาได้รับรองอนุญาตให้จำเลยที่ 1, 2, 4 ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ พิเคราะห์แล้วเห็นว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรส่งศาลสูงสุด จึงอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้
โดยคดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.62 ลงโทษจำคุกนายเปรมชัย 2 ปี 14 เดือน, จำคุกนายยงค์ 2 ปี 17 เดือน และจำคุกนายธานี 2 ปี 21 เดือน และให้จำเลยที่ 1-4 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช 2 ล้านบาท (มูลค่าความเสียหายเสือดำ) พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. 2561 (วันที่เจ้าหน้าที่พบการกระทำผิด)
...
ส่วนนางนที เรียมแสน อายุ 46 ปี แม่ครัว จำเลยที่ 3 ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาจำคุก 1 ปี 8 เดือน และปรับ 40,000 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษไว้ 2 ปี โดยคดียุติตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 7 เนื่องจากอัยการโจทก์และจำเลยที่ 3 ไม่ติดใจยื่นฎีกา