เรืออากาศเอกจักรวาล พี่ชาย “พ.ต.ท.บรรยิน” พบตำรวจกองปราบ ให้ข้อมูลสำคัญเป็นคนยืมรถที่ใช้อุ้มพี่ชายผู้พิพากษาที่หน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ พร้อมขอความเป็นธรรมสังคม ตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 มี.ค.63 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เรืออากาศเอกจักรวาล ตั้งภากรณ์ พี่ชายของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ผู้ต้องหาในคดีร่วมกับพวกรวม 6 คน อุ้มฆ่าเผานั่งยาง นายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผบก.ป.และ พ.ต.อ.สัณห์เพ็ชร หนูทอง ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. เพื่อให้ปากคำตามหมายเรียกในคดีดังกล่าว

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นซักถามในเรื่องที่มาของรถโตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ ที่ พ.ต.ท.บรรยิน นำมาใช้อุ้มตัวนายวีรชัย ซึ่งเรืออากาศเอกจักรวาลไปขอยืมรถยนต์คันดังกล่าวมาจาก พ.ต.ท.ประเสริฐ ผลประสาร รองผกก.(สส.) สภ.สามง่าม จ.พิจิตร ก่อนที่ พ.ต.ท.บรรยิน จะนำไปใช้งานอุ้มฆ่าดังกล่าว

เรืออากาศเอกจักรวาล กล่าวก่อนให้ปากคำพนักงานสอบสวนกองปราบว่า การเข้าพบตำรวจครั้งนี้ไม่รู้สึกหนักใจอะไร เชื่อว่าสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น ทั้งนี้ยอมรับว่ารถโตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ดังกล่าว เป็นรถที่ตนเคยนำไปใช้งานจริง โดยรถคันนี้เป็นของตำรวจนายหนึ่งใน จ.พิจิตร ที่ตนรู้จักส่วนตัวเป็นผู้ครอบครอง ถูกนำไปใช้ในการหาเสียงลงสมัครเลือกตั้งเมื่อหลายปีก่อน หาก พ.ต.ท.บรรยิน นำไปใช้จริง น่าจะไปหยิบยืมมากจากทีมหาเสียงของตน ยืนยันว่าตนไม่ทราบเรื่องที่ พ.ต.ท.บรรยิน นำรถคันนี้ไปใช้ก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้แต่อย่างใด

ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.กล่าวว่า จากการสืบสวนเส้นทางที่มาที่ไปของรถ มีหลักฐานชัดเจนว่า เรืออากาศเอกจักรวาล เป็นผู้ยืมรถคันนี้ด้วยตนเองก่อนวันเกิดเหตุ สำหรับการสอบสวนจะมุ่งเน้นไปที่เหตุผล และความจำเป็นในการนำรถคันนี้ไปใช้งาน ก่อนจะพิจารณาว่าจะดำเนินคดีกับเรืออากาศเอกจักรวาลด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ยังมี นางวราภรณ์ ตั้งภากรณ์ ภรรยาของ พ.ต.ท.บรรยิน ที่พนักงานสอบสวนกองปราบนัดหมายให้มาพบในวันที่ 9 มีนาคมนี้ เพื่อซักถามความเกี่ยวข้องกับการครอบครองที่ดิน ใน จ.นครสวรรค์ จุดที่เผาอำพรางศพนายวีรชัย อีกด้วย

...

ต่อมาเวลา 12.00 น. ภายหลังเสร็จการเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้วนั้น เรืออากาศเอกจักรวาล ได้ออกมาเปิดเผยว่า ยังคงยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา ส่วนรถคันดังกล่าวยืมมาตั้งแต่เมื่อปี 2561 แล้ว เพื่อนำมาใช้ในการหาเสียงของตนเองและลูกชายของ พ.ต.ท.บรรยิน ซึ่งมีการหมุนเวียนกันนำไปใช้ในทีมหาเสียง เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ ไม่รู้ว่าทีมงานนำรถคันนี้ไปให้ใครใช้บ้าง พร้อมขอความเป็นธรรมให้สังคมเข้าใจด้วยว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และขอให้ความเชื่อมั่นในการสอบสวนของกองปราบปราม.