ร.อ.จักรวาล ตั้งภากรณ์ พี่ชาย “บรรยิน” ขอเลื่อนให้ปากคำกองปราบเป็นวันพรุ่งนี้ (5 มี.ค.) ปมขอยืมรถสปอร์ตไรเดอร์นายตำรวจ จ.พิจิตร มาให้น้องใช้ในการอุ้มเหยื่อ อ้างติดธุระไม่สะดวกให้การ

เมื่อวันที่ 4 มี.ค.63 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.อเนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.กล่าวถึงกรณีการออกหมายเรียก เรืออากาศเอกจักรวาล ตั้งภากรณ์ พี่ชายของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ผู้ต้องหาในคดีร่วมกับพวกรวม 6 คนอุ้มฆ่านายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชาย น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ มาให้ปากคำเพิ่มเติม ว่า กำหนดนัดหมายเรืออากาศเอกจักรวาล ตามหมายเรียกให้มาเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบ ในวันนี้ (4 มี.ค.) แต่ก่อนหน้านี้ประมาณ 1-2 วันที่ผ่านมา ได้รับการติดต่อจากเรืออากาศเอกจักรวาล ขอเลื่อนการเข้าพบออกไปเป็นวันที่ 5 มี.ค. หรือวันพรุ่งนี้แทน เนื่องจากเจ้าตัวยังไม่สะดวกที่จะมาเข้าพบเพราะติดธุระบางอย่าง

ส่วนความคืบหน้าอื่นๆ ในสำนวนคดีนั้น ขณะนี้ยังคงเหลือสอบปากคำพยานบุคคลอื่นๆ เพิ่มเติมอีกประมาณ 20 ปาก คาดว่าจะแล้วเสร็จส่งฟ้องได้ทันภายในเดือน มี.ค.นี้  ขณะที่ผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอจากชิ้นส่วนกระดูกที่จะยืนยันว่าจะเป็นของนายวีรชัย ผู้ตายหรือไม่อย่างเป็นทางการนั้น อยู่ในขั้นตอนของกองพิสูจน์หลักฐานเป็นผู้ดำเนินการ

พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.เปิดเผยถึงการที่นักประดาน้ำหยุดการงมค้นหาหลักฐานกระดูกและชิ้นส่วนศพของนายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชายผู้พิพากษา ศาลอาญาใต้ ตามคำให้การของผู้ต้องหาว่า ถึงขณะนี้ชิ้นส่วนกระดูกที่นักประดาน้ำงมเจอรวมกับชิ้นส่วนกระดูกที่พบจากจุดที่ผู้ต้องเผานั่งยางที่พบ เบื้องต้นผลอย่างไม่เป็นทางการพบว่าดีเอ็นเอตรงกับของนายวีรชัย โดยได้นำดีเอ็นเอไปเปรียบเทียบกับพี่ชายของนายวีรชัย ซึ่งน่าจะจับคู่ใกล้เคียงกันมากกว่าของ น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ที่เป็นผู้หญิง ซึ่งผลจากการตรวจสอบพบว่าดีเอ็นเอตรงกัน ยืนยันได้ว่ากระดูกที่พบเป็นของนายวีรชัย สำหรับเศษกระดูกที่พบหลายส่วนนั้น ยังรวมถึงเศษกระดูกของศีรษะ ที่สามารถระบุได้ว่านายวีรชัย ได้เสียชีวิตไปแล้วด้วย ดังนั้นถึงนักประดาน้ำจะหยุดงมจึงไม่เป็นไร

...

ทั้งนี้ต้องเข้าใจว่าแม่น้ำกว้างใหญ่ กระแสน้ำเขี่ยว มีระยะทางไกล ทำให้ยากต่อการงมหาหลักฐาน แต่หลักฐานเท่าที่มีตอนนี้ก็เพียงพอแล้ว ทั้งนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรอผลอย่างเป็นทางการ จากนั้นถึงจะแจ้งข้อหาเพิ่ม

รอง ผบก.ป.กล่าวต่อว่า หลังจากที่ได้ดูสำนวนคดีแล้ว พบว่ายังต้องสอบในอีกหลายประเด็น รวมทั้งต้องเรียกพยานมาสอบอีกหลายรายด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการทำสำนวนให้รัดกุมแน่นหนาที่สุดด้วย.