พี่สาวของเหยื่ออดีตแฟนหนุ่มยิงกลางห้างตาย เผย น้องเคยถูกผู้ชายทำร้ายบาดเจ็บ อึดอัดทนไม่ไหวต้องเลิก แถมเคยถูกขู่ฆ่ายกครัว โดยผู้ชายไม่เคยส่งเสียลูก ขณะที่ผู้ต้องหาสำนึกผิดขอโทษญาติฝ่ายหญิง
กรณี นายดนุสรณ์ นุ่มเจริญ อายุ 28 ปี ก่อเหตุใช้ปืนขนาด .45 ยิง น.ส.ปิยานุช ฉัตรไทย อายุ 28 ปี อดีตภรรยาสาว พนักงานคลินิกเสริมความงามที่เพิ่งเซ็นใบหย่าเมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมาไป 7 นัด จนเสียชีวิต ในคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง ในห้างสรรพสินค้าเซ็นจูรี่พลาซ่า ถ.พญาไท ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนหลบหนีไป ต่อมา ศาลอาญา อนุมัติหมายจับ ที่ จ.154/2563 ลงวันที่ 18 ก.พ.63 ใน 5 ข้อหา คือ 1. ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 2. พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 3. มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 4. พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรและไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว 5. ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน
และเมื่อช่วงเช้ามืดเวลาประมาณ 04.30 น.เช้าวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา นายดนุสรณ์ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมได้ในพื้นที่ ต.ห้วยแม่เพียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยของกลาง ปืนยี่ห้อ โคลท์ ขนาด .45 เครื่องกระสุน 32 นัด ซองบรรจุกระสุน 2 ซอง ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ สน.พญาไท
...
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 19 ก.พ. พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น.เดินทางยัง สน.พญาไท เพื่อสอบปากคำ นายดนุสรณ์ หลังถูกจับกุมพร้อมปืนที่ใช้ก่อนเหตุที่ จ.เพชรบุรี
ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่สน.พญาไท น.ส.เมตตา (นามสมมติ) พี่สาว น.ส.ปิยานุช ฉัตรไทย ผู้ตาย เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ก่อนเปิดเผยว่า ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา น้องสาวส่งข้อความมาหา ระบุว่าต้องหนีจากนายดนุสรณ์ เพราะอึดอัด ทนไม่ไหว หากอยู่ต่อต้องโดนฆ่าแน่นอน เพราะตลอดเวลา 5-6 ปีที่ผ่านมา น้องสาวถูกทำร้ายร่างกายจนตัวบอบช้ำไปทำงาน และร้ายแรง ที่สุดคือฝ่ายชายข่มขู่ว่าหากเลิกกันจะฆ่าพ่อและแม่ของน้องสาว จนน้องสาวต้องหนีไปอยู่ที่ จ.ชลบุรี แต่ฝ่ายชายกลับตามไปข่มขู่ว่าหากไม่กลับมาจะฆ่าญาติพี่น้องให้หมด
"ทั้งนี้ฝ่ายชายไม่เคยส่งเสียเงินเลี้ยงดูลูกตัวเอง แต่เป็นทางพ่อเเละเเม่ของน้องสาวที่เป็นคนดูเเลทั้งหมด ยืนยันว่า น้องสาวตัวเองไม่เคยมีชู้ แต่ทนพฤติกรรมของฝ่ายชายไม่ได้ ซึ่งตนพยายามที่จะกู้ข้อมูลในโทรศัพท์มือถือเพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันในส่วนนี้ หลังจากนี้จะทำเอกสารเพื่อขอรับศพที่ นิติเวช รพ.รามาธิบดี ก่อนนำร่างกลับไปทำพิธีกรรมทางศาสนาที่บ้านเกิดในพื้นที่หมู่ 3 ท่าไผ่ ต.ยกระบัตร อ.สามเงา จ.ตาก โดยจะมีการฌาปนกิจในวันเสาร์ที่ 22 ก.พ.นี้" พี่สาวของผู้ตาย กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.สุคุณ เปิดเผยว่า เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า ยิงเพราะความหึงหวง แต่วันนี้สำนึกผิดแล้ว อยากขอโทษญาติฝ่ายหญิงที่ตัดสินใจทำแบบนี้ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ตรวจสอบพบว่ามีทะเบียนถูกต้อง แต่เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่าเป็นปืนสวมทะเบียนด้วนหรือไม่ ซึ่งจากการพูดคุยทราบว่า เป็นคนชื่นชอบเรื่องอาวุธปืนและชอบยิงปืน ไม่ได้ซื้อไว้ข่มขู่หรือทำร้ายภรรยา หลังก่อเหตุตัดสินใจหลบหนีไปบ้านพ่อแม่ ที่จังหวัดเพชรบุรี ไม่ได้ไล่ล่าแฟนใหม่ของอดีตภรรยาสาวตามที่เขียนระบายไว้
"ส่วนตอนนี้นายดนุสรณ์มีความสำนึกผิด ยอมรับว่ามีเจตนายิงอดีตภรรยาเท่านั้น แต่กระสุนอาจไปถูกเพื่อนผู้ตาย อย่างไรก็ตาม สำหรับปืนที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุเบื้องต้นพบมีทะเบียนถูกต้อง แต่เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่าเป็นปืนที่ถูกสวมทะเบียนหรือไม่ โดยผู้ต้องบอกว่าเป็นคนชอบปืนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และเคยซื้อมาเก็บไว้หลายกระบอก อย่างไรก็ตามได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจคราบเขม่าปืนที่ตัวผู้ต้องหาเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในคดี" รอง ผบช.น. กล่าว.