ตร.สุราษฎร์ฯ เรียกหนุ่มโพสต์อาวุธปืนชวนเที่ยวห้างดังสอบสวน เจ้าตัวโร่มาพบ จนท.ก่อน อ้างแค่โพสต์เตือนเพื่อนในเฟซบุ๊กแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่วนคนโพสต์รูปปืนอีกราย ตร.กำลังตามตัวมาดำเนินคดี

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า ภาคภูมิศิลป์ ทำป้ายสุราษฎร์ธานี โพสต์รูปภาพอาวุธปืนสั้นและกระสุนปืนจำนวนมากพร้อมข้อความว่า "ไปเดินเที่ยว เซ็นทรัลกัน"


ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 ก.พ. นายภาคภูมิ พริ้งสกุล อายุ 30 ปี ชาวบ้าน ม.5 ต.มะขามเตี้ย จ.สุราษฎร์ธานี ผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว เดินทางมายัง สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อเข้าพบกับ พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อชี้แจงเจตนาที่ตนเองได้โพสต์เฟซบุ๊กไป

...


โดย นายภาคภูมิ กล่าวว่า ตนเองไม่ได้มีเจตนาโพสต์เฟซบุ๊กเพื่อให้ประชาชนกลัว การที่ตนเองโพสต์รูปปืนนั้นไม่ได้หมายความว่า ตนเองจะนำอาวุธดังกล่าวไปก่อเหตุเหมือนข่าวดังที่จังหวัดนครราชสีมา แต่ตนเจตนาว่าสมัยนี้เที่ยวห้างไม่ปลอดภัย จำเป็นต้องมีอาวุธป้องกันตัวเอง สำหรับรูปถ่ายอาวุธปืนนั้นไม่ใช่ของตนเอง ไปก๊อบปี้รูปภาพมาจากเพจอื่นมา และขอโทษสังคมที่ตนเองโพสต์เฟซบุ๊กทำให้ตกใจ และสัญญาว่าต่อไปตนเองจะคิดให้มากก่อนจะโพสต์อะไรลงไปในโซเชียล


สำหรับกรณีนี้ พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้สอบสวนและเล็งเห็นได้ว่า นายภาคภูมิ ไม่มีเจตนาที่บ่งชี้ว่าจะไปก่อเหตุ และผู้โพสต์อ้างว่า กระทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงยังไม่เข้าข่ายความผิดอาญา เลยได้ว่ากล่าวตักเตือน และลงบันทึกประจำวันไว้ พร้อมกำชับว่าอย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ซึ่งนายภาคภูมิก็ให้คำสัญญาไว้ว่าจะไม่ทำอีก

รายงานข่าวแจ้งว่า ส่วนกรณีผู้ใช้ชื่อบัญชีเฟซบุ๊ก ชื่อ "กูมงโกรย เจ็บขี้ ที่ฟลอริด้า" ได้โพสต์ข้อความ "จ่าโกย100ศพ บุกสภานายก รับช่วงต่อ จะจ่าสิบเอก. พร้อมรบ" โดยมีภาพประกอบผู้โพสต์ครึ่งตัว แต่งกายด้วยชุดลายพรางทหาร และยังมีภาพประกอบของอาวุธปืนอีกเป็นจำนวนมาก ล่าสุด พ.ต.อ.ณฐกรญ์ กาญจนาภรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้มีคำสั่งไปยังทุก สภ.เพื่อให้ตรวจสอบบุคคลดังกล่าว


จากการตรวจสอบล่าสุด ทราบชื่อและสกุลจริง ของเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊ก "กูมงโกรย เจ็บขี้ ที่ฟลอริด้า" แล้ว โดยพื้นเพเป็นชาวบ้านธรรมดา จาก อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช เมื่อต้นปี 2562 มาสมัครเป็นพนักงานของโรงแรมแห่งหนึ่ง และล่าสุดพบความเคลื่อนไหวที่ จ.กระบี่ มีอาชีพเป็นช่างสักลายร่างกาย และอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป.