เบื้องหลังการบุกจับคนร้ายกราดยิงโคราช ได้ 4 ทีมตำรวจปฏิบัติการพิเศษ ช่วยคนติดห้างหนีออกมา "บิ๊กแป๊ะ" นำทีมพาคนออกห้างเทอร์มินอล 21 ขณะที่ ตร.มหด.รอ.904 บุกห้องเย็นยิงปะทะเดือดปลิดชีพจ่าคลั่ง
เมื่อวันที่ 9 ก.พ.63 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยถึงปฏิบัติการบุกจับ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ทหารสังกัดกองสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ กองทัพภาคที่ 2 ที่ก่อเหตุยิงกราดยิงโคราช ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และหลบหนีเข้าไปอยู่ในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช แบบละเอียดว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้มีการสนธิกำลังของ 4 ชุดเฉพาะกิจประกอบด้วย หน่วยหนุมาน กองบังคับการปราบปราม หน่วย commando กองบังคับการตำรวจราชวัลภลรักษาพระองค์ 904 , หน่วยอรินทราช 26 กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ, และ หน่วยนเรศวร 261

พาประชาชนหนีออกจากห้างให้มากที่สุด

...

ภารกิจแรกที่ต้องทำ คือ การอพยพคน เราต้องพาคนที่อยู่ภายในห้าง Terminal 21 ออกมาให้ได้มากที่สุด เปิดปฏิบัติการนำทัพ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. นำกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ตั้งแต่เวลา 21:00 น. แบ่งกำลัง บล็อก บริเวณบันไดเลื่อน 3 จุดและบันไดหนีไฟ 2 จุด นอกจากนี้ ยังแบ่งกำลังล้อมรอบประตูภายนอก โดยเฉพาะบริเวณชั้น LG ที่ มีทางออกไปนอกห้างได้ จากนั้น กำลังตำรวจได้ทยอยนำคนที่ ยังติดอยู่บริเวณชั้นต่างๆของห้าง Terminal 21 กว่า 1,000 คน ออกมาด้านนอก
โซเชียลนำทาง จนท.ไปรับคนที่ติดห้างพร้อมตามหาคนร้าย


ขณะที่ ประชาชนบางคนที่ยังแอบซ่อนตัวอยู่ตามจุดต่างๆ กองปราบปราม ก็ได้ใช้วิธีที่ได้พยายามประชาสัมพันธ์ไว้ ให้คนที่ยังติดอยู่ inbox เข้ามาในเพจ Facebook ของ กองปราบปราม หรือโทรศัพท์แจ้งเข้ามาว่าหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณใด ก็จะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปรับ ตลอดระยะเวลาที่มีการประชาสัมพันธ์ ตลอดทั้งคืน มีประชาชน แจ้งข้อมูลผ่านเพจ Facebook ของ กองปราบปรามและโทรศัพท์มาที่สายด่วน กองปราบปราม เป็นจำนวนมาก ทำให้มีข้อมูลพอที่ช่วยให้ จนท.ไปนำตัวออกจากที่เกิดเหตุได้อย่างปลอดภัย
จากนั้นเวลาประมาณ 02:30 น. มีการปะทะกันในรอบแรก คนร้ายได้ใช้ปืนเล็กยาวจู่โจม ยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ที่เคลื่อนตัวเข้าไป จึงมีการยิงสวนเข้าไป และเจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่าคนร้ายน่าจะเก็บตัวประกันไว้บางส่วน หลังจากสถานการณ์การยิงปะทะคลี่คลายลง เสียงปืนเงียบไป เจ้าหน้าที่ยังคงกระชับพื้นที่ เพื่อตามหาตัวคนร้ายว่าอยู่บริเวณใด
เสี่ยงเป็นเสี่ยง นาทีบุกห้องเย็นจับตาย!

...
จากนั้นได้มีคนติดต่อทาง Facebook ของกองปราบปราม โดยอ้างว่าถูกคนร้ายจับกุมตัวอยู่ในห้องเย็นของชั้น LG ไม่มีอากาศหายใจและอากาศกำลังจะหมด ช่วงแรกเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อข้อมูลดังกล่าว เพราะคิดว่า คนร้ายอาจจะใช้ Facebook ของตัวประกัน ในการหลอกติดต่อเจ้าหน้าที่ แต่ในช่วงเวลานั้น เจ้าหน้าที่ต้องเสี่ยงเข้าไปยังห้องเย็น เพราะคิดว่าตัวประกันออกมาเกือบหมดแล้ว ความเสี่ยงในการสูญเสีย ก็จะน้อยลง
ปฏิบัติการจู่โจมภายในห้องเย็น จึงเกิดขึ้นในช่วงเช้าตรู่ ของวันที่ 9 ก.พ. โดยมีเป้าหมายจับตาย เพราะนาทีนั้น คนร้ายยังคงยิงต่อสู้ เจ้าหน้าที่และไม่มีท่าทีที่จะยอมจำนน

ตัดสินใจบุกห้องเย็นเข้าชาร์จคนร้ายกราดยิง
เมื่อได้เวลา จนท.ชุดจู่โจมได้บุกเข้าเคลียร์ห้องเย็น และยิงปะทะคนร้าย กระทั่งสถานการณ์สงบ ก็พบว่าคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต และเมื่อตรวจสอบภายในห้องดังกล่าว พบว่ายังมีผู้เสียชีวิตอีก 2 ศพ โดยเจ้าหน้าที่คาดว่า ผู้เคราะห์ร้ายถูกคนร้ายยิงไว้ก่อนที่จะเปิดปฏิบัติการบุกห้องเย็น เพราะพฤติกรรมของคนร้ายรายนี้ มีลักษณะกราดยิงไปตามห้องต่างๆภายในชั้น LG
ผบก.ป.กล่าวอีกว่า สำหรับสวัสดิการที่ ส.ต.ต.รัฐธรรมนูญ จนท.ที่บาดเจ็บจากการปะทะ จะได้รับได้แก่ เงินกองทุนสวัสดิการ ตร. (ได้รับบาดเจ็บไม่สาหัส ถูกทำร้าย) 7,500 บาท. เงินสมาคมแม่บ้านตำรวจ 3,000 - บาท ความชอบกรณีพิเศษ มีสิทธิได้รับ (พ.ป.ผ) ไม่เกิน 2 ขั้น รวมทั้งสิ้น 10,500 บาท โดย ขณะนี้ส.ต.ต.รัฐธรรมนูญ กำลังรักษาตัวอยู่ที่ห้องฉุกเฉิน รพ.ตำรวจ
...

เลือดแลกเลือด คอมมานโดนำบุกเข้าดับลมหายใจคนร้าย
ด้าน พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบช.ก.กล่าวว่า ได้รับรายงานจากชุดปฏิบัติการในพื้นที่ ว่า พ.ต.ต.ศตวรรษ คนชุม สว.บก.ตร.มหด.รอ.904 เป็นผู้ที่นำหน่วยร่วมปฏิบัติภารกิจ บุกเข้าไปที่บริเวณห้องเย็น ชั้น LG ซึ่งเป็นจุดที่คนร้าย เข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ โดยเป็นคนถือโล่นำหน้าขบวน เข้าไปภายในห้องเย็นด้วยความระมัดระวัง และเตรียมพร้อม แต่ถึงแม้ จนท.จะเพิ่มความระมัดระวังแล้ว คนร้ายที่หลบซ่อนอยู่ และมีอาวุธปืนสงครามอำนาจการทำลายล้างสูงข้างกาย ก็พร้อมยิงบุคคลแปลกหน้าตลอดเวลา

...
เมื่อ จ.ส.อ.จักรพันธ์ เห็นกำลังเจ้าหน้าที่ค่อยเคลื่อนตัว บุกเข้าไปในห้องเย็น จึงได้ยิงสวนออกมาทันที โดยการยิงแบบล่างขึ้นบน ทำให้กระสุนที่มีอำนาจเจาะทะลวงเกราะ ถูกที่เหนือหัวเข่าโชคดีไม่เข้ากระดูก กระสุนทะลุเนื้อออกไป จากนั้น พ.ต.ต.ศตวรรษ ได้ล้มลงหลบกระสุน ทำให้หน่วยที่เดินตามมา คือ หน่วยอรินทราช 26 ก็ถูกยิงเสียชีวิต เพราะคนร้ายใช้วิธีการยิงแบบสาดกระสุน แต่สุดท้ายคนร้ายก็ไม่รอด โดนกระสุนของ จนท.ที่ยิงสวนออกไป ทะลุร่างจนนอนเสียชีวิตในห้องเย็นที่เข้าไปหลบซ่อนตัว โดยที่ข้างกายยังมีอาวุธปืนอยู่แบบครบมือ.